“มาเลเซีย” ออกมาตรการคุมราคาอาหาร หลังเงินเฟ้อพุ่ง

“มาเลเซีย” ออกมาตรการคุมราคาอาหาร หลังเงินเฟ้อพุ่ง

นายอเล็กซานเดอร์ นันทา ลิงกิ รัฐมนตรีการค้าในประเทศและกิจการผู้บริโภคของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียกำลังเผชิญแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่รัฐบาลเองกำลังใช้มาตรการเพื่อควบคุมราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น

นายลิงกิ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Squawk Box Asia ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ว่า เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว เราน่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติมาเลเซีย เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของมาเลเซีย ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนธ.ค.2564 เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ข้อมูลของสำนักงานสถิติ ระบุว่า “อัตราเงินเฟ้อของประเทศในช่วงเดือนม.ค.-ธ.ค. 2564 สะท้อนการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 2.5% เมื่อเทียบกับระดับ -1.2% ในช่วงเดียวกันของปี 2563”

รัฐมนตรีมาเลเซีย ยังระบุด้วยว่า “เพื่อเป็นการบรรเทาแรงกดดันด้านภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลมาเลเซียจึงได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้า โดยเฉพาะรายการสินค้าที่เป็นอาหารที่สำคัญ เช่น ข้าวและเนื้อสัตว์ รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า จะสามารถซื้ออาหารและสิ่งของที่จำเป็นในราคาที่สามารถซื้อหาได้ ด้วยการจัดสรรเงินอุดหนุนและความช่วยเหลือด้านอื่นๆ”

ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเลเซียประกาศว่าจะจัดสรรงบ 680 ล้านริงกิต (162 ล้านดอลลาร์) เพื่อสร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าที่จำเป็น

รัฐมนตรีมาเลเซีย ยังระบุว่า ปัจจัยจากโรคระบาดยังเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้วย โดยกล่าวว่า “เราเผชิญการระบาดของโควิดตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และทำให้เกิดภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานอาหาร ซึ่งผลให้เกิดการหยุดชะงักในกระบวนการผลิตตามมา”