เปิด 5 ภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกปี 2565-ทั่วโลกเตรียมรับมือ

เปิด 5 ภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกปี 2565-ทั่วโลกเตรียมรับมือ

เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอยู่ดีๆ ในปี 2564 กำลังถูกฉุดรั้งโดยการระบาดของโควิด-19 กระนั้นโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนก็เป็นแค่หนึ่งในความเสี่ยงหลักที่อาจทำลายขวัญกำลังใจนักลงทุนในปี 2565

เว็บไซต์ dw.com รายงานว่า ปี 2564 เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากความตกต่ำเพราะโควิด-19 เพิ่งมาเสียแรงส่งในช่วงครึ่งปีหลังผลจากการระบาดระลอกใหม่ ปัญหาคอขวดซัพพลายเชน การขาดแคลนแรงงาน และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนารายได้ต่ำ

การฟื้นตัวอย่างช้าๆ กระตุ้นให้นักเศรษฐศาสตร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี)  สมาชิก 38 ประเทศปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2564 ลงเล็กน้อยในเดือน ต.ค.และธ.ค. แต่ยังคงคาดการณ์ปี 2565 ไว้พร้อมเตือนว่าโควิดกลายพันธุ์อาจบั่นทอนการเติบโตได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรโลกส่วนใหญ่

แม้การระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นความเสี่ยงหลักของเศรษฐกิจโลก แต่ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ที่นักลงทุนต้องระมัดระวังในปีนี้ เริ่มต้นจาก

โควิดสายพันธุ์ดื้อวัคซีน

เดือน พ.ย.2564 ตลาดเงินตื่นขึ้นมาพร้อมฝันร้าย มีรายงานพบ“โอมิครอน”

โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ติดต่อง่ายในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ส่งผลให้ตลาดเงินและสินค้าโภคภัณฑ์โลกดิ่งเหว หนึ่งสัปดาห์ถัดมาตลาดยังคงผันผวนเนื่องจากนักลงทุนพยายามประเมินผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ

หลักฐานเบื้องต้นแม้จะน้อยและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แม้โอมิครอนติดง่ายกว่าสายพันธุ์เดลตาแต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตมากเท่า และไม่หลุดรอดภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนหรือการรักษา ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป

นักยุทธศาสตร์จากเจพี มอร์แกน กล่าวว่า ถ้าพบว่าโอมิครอนทำให้เสียชีวิตน้อยกว่า ก็อาจเป็นตัวเร่งให้การระบาดใหญ่จบเร็วขึ้น

เป็นไปได้ว่าโอมิครอนอาจไม่ใช่ตัวป่วนที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกผิดแผน แต่โควิดสายพันธุ์ใหม่ในอนาคตอาจเป็นความเสี่ยง ผู้เชี่ยวชาญเตือนแล้วว่า ถ้าปล่อยให้การระบาดใหญ่ลุกลาม เมื่อนั้นจะเกิดสายพันธุ์ดื้อวัคซีนที่อาจทำให้ต้องล็อกดาวน์กันอีก
 

“ถ้าโควิด-19 ส่งผลกระทบยืดเยื้อ ในระยะกลางจะลดจีดีพีโลกลง 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ตลอด 5 ปีข้างหน้าเทียบกับการคาดการณ์ของเราในปัจจุบัน” กิตา โกปินาถ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟกล่าวไว้ในเดือน ต.ค. ดังนั้นนโยบายที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ สร้างหลักประกันว่า 40% ของประชากรในทุกๆ ประเทศฉีดวัคซีนครบแล้วภายในปี 2564 และ 70% ภายในกลางปี 2565

คอขวดซัพพลายเชน

ซัพพลายเชนปั่นป่วนมีบทบาทสำคัญทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2564 สะดุดลง สถานการณ์การขนส่งสินค้าสับสนผนวกกับขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ขณะที่ความต้องการฟื้นตัวรวดเร็วเมื่อทางการผ่อนคลายข้อจำกัดคุมโควิด เหล่านี้ทำให้ผู้ผลิตต้องเร่งหาส่วนประกอบและวัตถุดิบ

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ปัญหาคอขวดซัพพลายเชนจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในปีนี้ด้วย

“เราคาดว่าสถานการณ์ยังไม่บรรเทาลงในปี 2565 และไม่บรรเทาก่อนเพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งทางเรือในปี 2566 หรือปรับซัพพลายเชนเข้ามายังชายฝั่งใกล้ๆ”

แฟรงก์ โซบอตกา กรรมการผู้จัดการบริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ “ดีเอสวีแอร์แอนด์ซี เยอรมนี” กล่าวซึ่งหมายถึงการย้ายธุรกิจมายังประเทศใกล้เคียง

เงินเฟ้อพุ่ง

การขาดแคลนวัตถุดิบและปัจจัยการผลิต ผนวกกับราคาพลังงานเพิ่มขึ้นดันให้เงินเฟ้อในยูโรโซนและสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบหลายปีสร้างความหวาดหวั่นให้นักลงทุนทั่วโลกที่เกรงว่า ธนาคารกลางจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืนยันว่า เงินเฟ้อสูงเพราะปัจจัยชั่วคราว เช่น อุปทานขาดแคลน ราคาพลังงานสูง และผลกระทบพื้นฐาน คาดว่าเงินเฟ้อจะอ่อนตัวลงเมื่อผลจากความไม่สมดุลในอุปสงค์และอุปทานโลกลดลง

ด้วยความปั่นป่วนของซัพพลายเชนที่พิสูจน์แล้วว่ายืดเยื้อกว่าที่คาดไว้ทีแรก เงินเฟ้อก็น่าจะร้อนแรงต่อไปในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีนี้ บรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรปจึงตกที่นั่งลำบาก

ในสหรัฐความกังวลเรื่องเงินเฟ้อคาดว่ายิ่งมากขึ้นไปอีก ได้แรงหนุนจากหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจฟื้นตัวรวดเร็ว มาตรการกระตุ้นทางการคลังปริมาณมหาศาล การขาดแคลนแรงงานและซัพพลาย

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าจะลดการเข้าซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจทำให้เกิดปัญหาในตลาดเกิดใหม่บางแห่ง เช่น แอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา และตุรกี ที่อาจเห็นเงินทุนไหลออก

จีนเล่นงานยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี

การชะลอตัวของจีน ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก ย่อมเพิ่มความกังวลให้นักลงทุนในปีนี้อย่างแน่นอน มหาอำนาจเศรษฐกิจเอเชียรายนี้เคยช่วยให้โลกพ้นภาวะถดถอยจากโควิดมาแล้วในปี 2563 อานิสงส์ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และการแพทย์

จีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่เติบโตในปี 2563 ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวราว 8% กลายเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่เติบโตเร็วสุดรองจากอินเดีย

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวหลังโควิดกำลังถูกขัดขวางจากการที่รัฐบาลปักกิ่งเล่นงานบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น อาลีบาบา เทนเซ็นต์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์หนี้ท่วมอย่างเอเวอร์แกรนด์และข่ายซา และธุรกิจติวเตอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของจีนพยายามปลอบขวัญโดยบอกว่าปีหน้าจะให้ความสำคัญสูงสุดกับการสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจกระตุ้นให้เกิดความคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นทางการคลังในต้นปีนี้

การไม่ยินยอมเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่ทำให้ประเทศโดดเดี่ยวมานานกว่าหนึ่งปี และนำไปสู่การออกข้อจำกัดเข้มงวดหากพบผู้ติดเชื้อโควิดแม้เพียงหนึ่งราย จะยังคงเป็นความเสี่ยงใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกในปีนี้

ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์

แม้อุณหภูมิของซีกโลกเหนือจะลดลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและพันธมิตรยุโรปยังน่าเป็นห่วง รัฐบาลวอชิงตันเตือนมอสโกไม่ให้รุกรานยูเครนท่ามกลางการเสริมกำลังทหารรัสเซียบริเวณพรมแดนยูเครน

ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนก็ตึงเครียดด้วยเรื่องไต้หวัน วอชิงตันเตือนปักกิ่งไม่ให้เปลี่ยนสถานะภาพเดิมของไต้หวันแต่เพียงฝ่ายเดียว ทั้งยังกวนใจปักกิ่งต่อด้วยการประกาศว่า ทางการสหรัฐจะคว่ำบาตรโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในเดือน ก.พ. อ้างการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนซึ่งจีนขู่ว่า สหรัฐ “มีราคาที่ต้องจ่าย” กับการตัดสินใจเช่นนั้น