นักวิเคราะห์มองท่องเที่ยวไทยฟื้นเต็มที่ปี 68

ในโอกาสที่ไทยจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนครบแล้วในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานอ้างข้อมูลนายฌอน เฟนเนอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียจากบริษัทที่ปรึกษา “ออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิกส์” ระบุว่า ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่พึ่งพาการท่องเที่ยวหนักมาก คิดเป็นราว 21% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2562 การออกข้อจำกัดการเดินทางเพื่อคุมโควิด-19 สร้างความเสียหายให้กับสังคมและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล นี่เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเศรษฐกิจไทยถึงฟื้นช้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

อ่านข่าว : นับถอยหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. “นายกฯ” กำชับ 3 มาตรการเฝ้าระวัง-ติดตามใกล้ชิด

ขณะที่นายชานนท์ บุญนุช นักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ ระบุ “เราคิดว่าการเปิดประเทศของรัฐบาลไทยทั้ง ๆ ที่ประชากรฉีดวัคซีนครบโดสแค่ราว 40% สะท้อนว่าไทยต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก”

ทั้งนี้ ในไตรมาสสองเศรษฐกิจไทยขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ต่ำกว่าการเติบโตของเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปินส์ ที่จีดีพีขยายตัวระหว่าง 11.8%-16.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิกส์คาดว่า ปีนี้ทั้งปีจีดีพีไทยโต 1.8% ส่วนโนมูระประเมินไว้ที่ 0.6% นักเศรษฐศาสตร์ทั้งสองคนไม่คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเที่ยวไทยในเร็วๆ นี้ เพราะบางคนเมื่อกลับประเทศไปยังต้องถูกกักตัว

“เราคาดว่าการท่องเที่ยวขาเข้าของไทยจะฟื้นตัวในปี 2565 แต่ก็น่าจะอยู่ที่66% ของปี 2562 เอาเข้าจริงเราไม่คิดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเต็มที่เท่าระดับก่อนโควิดจนกระทั่งปี 2568” นายเฟนเนอร์ย้ำ

ขณะเดียวกันเหล่านักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ออฟอเมริกาย้ำว่า นักท่องเที่ยวจีนที่คิดเป็นราว 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยในปี 2562 จะยังไม่กลับมาจนกว่าจะถึงครึ่งปีหลังของปี 2565

ขณะนี้จีนยังปิดประเทศส่วนใหญ่มาตั้งแต่ปี 2563 และดำเนินยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์มาอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่คนก็ล็อกดาวน์ขนานใหญ่