ซัพพลายเออร์แอ๊ปเปิ้ลในเอเชียกว่า100บ.แห่ร่วมใช้พลังงานทดแทน

โครงการพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดของแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกันกำลังดึงดูดบรรดาซัพพลายเออร์ในเอเชียเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีซัพพลายเออร์ 175 แห่งให้คำมั่นใช้พลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ในกระบวนการผลิตและประกอบสินค้าในโรงงาน สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในขณะนี้ที่หลายประเทศพยายามเร่งระยะเวลาในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกให้เหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์

แอ๊ปเปิ้ล พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯให้เหลือศูนย์เปอร์เซนต์ในระบบห่วงโซ่อุปทานของบริษัททั้งระบบและในกระบวนการผลิตให้ได้ภายในปี 2573 และนอกจากจะลดปริมาณคาร์บอนฟุตปรินต์ของโรงงานทั้งหมดแล้ว แอ๊ปเปิ้ลยังกระตุ้นให้บรรดาหุ้นส่วนของบริษัททั้งหมดเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดตั้งแต่ปี 2558    
 

นับจนถึงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีซัพพลายเออร์ประมาณ 110 แห่งให้คำมั่นใช้พลังงานทดแทน 100%  ครอบคลุมถึงบรรดาบริษัทชั้นนำในเอเชียหลายแห่งอย่าง บีวายดี ฮอนไห่ พรีซิชัน อินดัสตรี เพกาทรอน เอสเค ไฮนิกซ์ และไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง ซึ่งทั้งหมดนี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของซัพพลายเออร์ทั้งหมดของแอ๊ปเปิ้ล  

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น 11 แห่ง อย่าง เจแปน ดิสเพลย์ ,แอลป์ อัลไพน์และผู้ผลิตอลูมิเนียมอย่างยูเอซีเจ ,มินิแบมิตซูมิ บริษัทผลิตชิ้นส่วน,ฟูจิกูระ บริษัทผลิตสายไฟฟ้า และฮิโรเสะ ผู้ผลิตขั้วต่อไฟฟ้า      

บริษัทชั้นนำสัญชาติเกาหลีที่มีส่วนร่วมกับโครงการใช้พลังงานสะอาดของแอ๊ปเปิ้ลก็มีปอสโก บริษัทผลิตเหล็ก และซัมซุง เอสดีไอ ผู้ผลิตแบตเตอรี และแอลจี อีเนอร์ยี โซลูชัน ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีใต้ ,บริษัททีพีเค ผู้ผลิตหน้าจอทัชสกรีน,บริษัทยูนิไมครอน  เทคโนโลยี ผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้าจากไต้หวัน ,บริษัทอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ และเวสเทิร์น  ดิจิทัล 2 บริษัทน้องใหม่ที่มาจากภูมิภาคอื่นที่ไม่ใช่เอเชีย    

แอ๊ปเปิ้ล  ยืนยันว่า บริษัททุกแห่งที่กล่าวมาล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการประกอบสมาร์ทโฟนไอโฟนและคอมพิวเตอร์แม็คในขั้นสุดท้ายให้แก่แอ๊ปเปิ้ลที่มีพันธกิจเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทน100% เต็ม  

 “ซาราห์  แชนด์เลอร์” ผู้อำนวยการระดับอาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมห่วงโซ่อุปทานของแอ๊ปเปิ้ล กล่าวว่า บรรดาซัพพลายเออร์ของบริษัทกำลังขยายนโยบายใช้พลังงานทดแทนให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าอื่นๆด้วย ขณะที่ซัพพลายเออร์เกิดความกังวลว่าอาจจะเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจกับแอ๊ปเปิ้ล หากว่าปรับตัวให้สอดรับกับความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯให้เหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์ช้าเกินไป

 “มีซัพพลายเออร์จำนวนมากหันมาสนใจดำเนินการเรื่องการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจังร่วมกับบริษัท”แชนด์เลอร์ กล่าว

 แอ๊ปเปิ้ลตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนฯให้เหลือศูนย์เปอร์เซนต์ ภายในปี 2573 เร็วกว่าสหประชาชาติ(ยูเอ็น)20ปี ที่ตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนฯศูนย์เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2593

 "ก่อนหน้าการประชุมสภาพอากาศ COP26 ในกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์ เราหวังว่าการปฏิบัติการด้านต่างๆจากแอ๊ปเปิ้ลจะกระตุ้นให้รัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลก รวมทั้งประชาคมธุรกิจออกมาร่วมกันผลักดันเพื่อปกป้องโลกใบนี้กันอย่างจริงจังเหมือนอย่างที่เราทำ"แชนด์เลอร์ กล่าว

 แต่ในการประชุมครั้งนี้ ประเทศที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือจีน ในฐานะเป็นประเทศปล่อยก๊าซคาร์บอนฯรายใหญ่สุดของโลก และการกระทำของจีนในอนาคตอันใกล้จะเป็นตัวชี้วัดว่า โลกจะสามารถบรรลุเป้าหมายเรื่องการลดโลกร้อนได้หรือไม่ 

 แม้จะมีการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะไม่เดินทางมาร่วมประชุม COP26 แต่จะส่ง“จ้าว หยิงหมิน” รัฐมนตรีช่วยด้านสิ่งแวดล้อมมาแทน ซึ่งนักวิเคราะห์ มีความเห็นว่า หากประธานาธิบดีสีไม่เข้าร่วม โอกาสที่จีนจะประกาศจุดยืนที่หนักแน่นก็พลอยมีน้อยไปด้วย

เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี ประกาศว่าจีนจะสามารถเป็นกลางทางคาร์บอนได้ภายในปี 2603 ทั้งยังให้คำมั่นว่าจะระงับการสนับสนุนโครงการถ่านหินในต่างประเทศ และจะเริ่มลดการใช้ถ่านหินภายในประเทศในปี 2569 แต่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาการขาดแคลนพลังงานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญของจีนเริ่มเห็นว่า จีนอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างห้าวหาญในการแก้ปัญหาโลกร้อน