'ออสเตรเลียมาก่อน' ดันคะแนนนิยมนายกฯ

นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ของออสเตรเลียมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ หลังเพิ่มความเข้มงวดระเบียบการทำงานและขอสัญชาติของชาวต่างชาติภายใต้นโยบาย “ออสเตรเลียมาก่อน”
หนังสือพิมพ์ดิออสเตรเลียนเผยผลสำรวจในวันนี้ (24 เม.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรีเทิร์นบูล วัย 62 ปี มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 42% เพิ่มขึ้น 4% จากเมื่อต้นเดือนนี้ ถือว่าสูงที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน หลังจากประกาศเข้มงวดระเบียบคนเข้าเมืองและการขอสัญชาติของชาวต่างชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน ตามรอยนโยบาย “อเมริกามาก่อน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะที่รัฐบาลพรรคเสรีนิยมของเขามีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 2% แต่ยังคงตามหลังพรรคแรงงานอยู่ 52% ต่อ 48%
นายเฮย์ดอน แมนนิง อาจารย์รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์สในรัฐเซาท์ออสเตรเลียมองว่า แม้นายเทิร์นบูลจะมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงต้องพยายามเรียกเสียงสนับสนุนกลับคืนหลังจากเสียที่นั่งในสภา 14 ที่นั่งให้แก่พรรคแรงงานในการเลือกตั้งปี 2559 และต้องแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำได้ก่อนการเลือกตั้งปี 2562
นอกจากนี้ นายแมนนิงแนะว่า ผู้นำออสเตรเลียยังต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและขาดดุลงบประมาณอย่างหนักในการแถลงงบประมาณปี 2560-2561 ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ประกาศยกเลิกวีซ่าทำงานชั่วคราวให้แก่ชาวต่างชาติ และใช้โครงการให้วีซ่าแบบใหม่ ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องทางการเมือง นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลารอการได้สัญชาติ เพิ่มการทดสอบเรื่องค่านิยมออสเตรเลีย และเพิ่มมาตรฐานภาษาอังกฤษ







