มะกันแบนสาร'ไตรโคลซาน'สบู่

องค์การอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) สั่งห้ามใช้สารเคมีสำคัญหลายชนิดในสบู่ล้างมือ เนื่องจากเป็นภัยต่อสุขภาพ และไม่ได้ให้ผลมากไปกว่าสบู่ทั่วไป
เอฟดีเอห้ามใช้ส่วนผสม 19 ชนิด รวมทั้งไตรโคลซานและไตรโคลคาร์บาน ซึ่งมักใช้ในสบู่และสบู่เหลวฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ด้วยเกรงว่าสารเหล่านี้จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
นางเจเน็ต วูดสต็อก ผู้อำนวยการแผนกยาของเอฟดีเอ กล่าวว่า ผู้บริโภคหลายคนอาจคิดว่าการใช้สบู่ฆ่าเชื้ออาจป้องกันเชื้อโรคได้มากกว่า แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า สบู่ฆ่าเชื้อใช้ได้ผลมากกว่าการล้างมือด้วยสบู่ธรรมดากับน้ำ แถมยังมีข้อมูลบางอย่างบ่งชี้ว่า ส่วนผสมที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียอาจเป็นอันตรายในระยะยาว
นางเทเรซา มิเชล ซึ่งทำงานในแผนกสุขภาพส่วนบุคคลของเอฟดีเอ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ในตลาด ล้วนมีสารต้องห้ามของเอฟดีเออย่างน้อย 1 ชนิด
อย่างไรก็ตาม เอฟดีเอไม่ได้ห้ามใช้สารเคมีดังกล่าวในผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มือในโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์อื่น ๆ
เอฟดีเอย้ำด้วยว่า การป้องกันตนเองไม่ให้เจ็บป่วยและไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายทำได้ด้วยการล้างมือด้วยสบู่ธรรมดากับน้ำที่ไหลจากก๊อก หากไม่มีสบู่และน้ำก็ให้ใช้เจลทำความสะอาดมือ ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60% แทนได้
ตามคำสั่งฉบับนี้ ผู้ผลิตมีเวลาเตรียมการหนึ่งปี ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิตบางรายได้เริ่มเลิกใช้ส่วนผสมที่เอฟดีเอห้ามแล้ว แต่ก็ใช่ว่าทุกฝ่ายจะเชื่อว่าผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนตัวอาจเป็นภัยต่อสุขภาพ เช่น สถาบันความสะอาดอเมริกัน กล่าวว่า สบู่ฆ่าเชื้อนั้นปลอดภัย และมีความสำคัญต่อการสาธารณสุข เพราะมือที่สะอาดจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ การล้างมือด้วยสบู่ฆ่าเชื้อจะลดความเสี่ยงติดเชื้อได้มากกว่าล้างด้วยสบู่ธรรมดากับน้ำ







