อาร์กติกอุ่นกระทบสิ่งมีชีวิตในทะเล

นักวิทย์ชี้ อุณหภูมิที่สูงขึ้นในมหาสมุทรอาร์กติก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศ
คณะนักวิทยาศาสตร์เยอรมนีพบว่า หากน้ำในมหาสมุทรอาร์กติกมีอุณหภูมิสูงขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ ผลพวงจากภาวะโลกร้อนที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศทางทะเล
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ศูนย์เฮล์มโฮลท์ซเพื่อการวิจัยขั้วโลกและทะเลของเยอรมนี หรือ “เอดับเบิลยูไอ” มีสถานีเก็บน้ำและตะกอน 21 สถานีที่ระดับความลึกตั้งแต่ 250 - 5,500 เมตร บริเวณช่องแครบแฟรม ซึ่งเป็นจุดที่มวลน้ำปริมาณมหาศาลจากมหาสมุทรแอตแลนติกไหลเข้าสู่มหาสมุทรอาร์กติก
นักนิเวศวิทยาทะเลลึกของเอดับเบิลยูไอ “นายโทมัส โซลท์เวเดล” หัวหน้าคณะนักวิจัยอธิบายว่าโดยปกติอุณหภูมิใกล้ผิวน้ำของกระแสน้ำที่ไหลเข้ามาเฉลี่ยอยู่ที่ 3 องศาเซลเซียสจากการศึกษาอนุกรมเวลาพบว่า ระหว่างปี 2548-2551 อุณหภูมิผิวน้ำสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส และเนื่องจากสิ่งมีชีวิตบริเวณขั้วโลกได้ปรับตัวให้อยู่อาศัยในอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง ความร้อนพิเศษที่เข้ามาจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรุนแรง
นอกจากนี้น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกยังลดลงในอัตรา 3-4% ต่อ 10 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 50 แต่ตั้งแต่ทศวรรษ 90 เป็นต้นมาค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10.7% ต่อ 10 ปี ซึ่งการที่มหาสมุทรแห่งนี้เปลี่ยนแปลงจากสภาพหนาวเย็นมีน้ำแข็งปกคลุม มามีอากาศอบอุ่นขึ้นและไม่มีน้ำแข็งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศทางทะเลของขั้วโลก







