ส.ผู้สื่อข่าวตปท.ผิดหวังไทยจับช่างภาพฮ่องกง

ตามที่นายกวาน ฮอกชุน หรือ แอนโธนี ฮอกชุน ช่างภาพชาวฮ่องกง ซึ่งได้รับคำสั่งจากตันสังกัดให้มาทำข่าวระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ถูกควบคุมตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างเตรียมขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหานำเสื้อเกราะและหมวกกันกระสุนเข้ามาในประเทศไทยเพื่อรายงานข่าวคืบหน้าเหตุการณ์วางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนในฮ่องกงเสียชีวิต 2 ราย

ความคืบหน้าวันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกวาน ได้ถูกนำตัวไปศาลจังหวัดสมุทรปราการและศาลรับฟ้องข้อหามีอาวุธในครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาต เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาวุธยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และคดีดังกล่าวจะถูกพิจารณาในศาลทหาร ขณะนี้ได้รับการประกันตัวแล้วแต่ยังไม่สามารถเดินทางออกจากประเทศไทยได้

กรณีดังกล่าว สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวัง และระบุว่า ชุดเสื้อเกราะและหมวกกันน็อกที่นักข่าวใช้นั้นไม่ใช่อาวุธ และเขาไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น การใช้ชุดเสื้อเกราะและหมวกนั้นเป็นเรื่องที่ปฏิบัติอย่างปรกติสำหรับนักข่าวทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเหตุการณ์ที่อันตราย การเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวต่างประเทศสองคนเมื่อปี 2553 ยิ่งแสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์ป้องกันตัวเช่นนี้เป็นสิ่งจำเป็น ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวที่ทำงานในกรุงเทพฯ ต่างสวมใส่ชุดเกราะเช่นนี้อย่างเปิดเผย แต่ก็ไม่เคยถูกตั้งข้อหาจากทางการไทย ในปัจจุบันสำนักข่าวใหญ่ต่างบังคับให้นักข่าวต้องสวมใส่ชุดเกราะและหมวกเกราะในสภาพแวดล้อมที่อันตราย

"ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องให้ทางการไทยตรวจสอบประเด็นนี้ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวสามารถหาซื้อ นำเข้า และใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวได้ กรณีของแอนโทนี่ กวาน นับเป็นโอกาสเหมาะที่จะมาหาทางออกในเรื่องนี้ เราเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกการตั้งข้อหาทางอาญาต่อแอนโทนี่ กวาน และทำงานร่วมกับสื่อในประเทศไทยเพื่อยกเลิกการเอาผิดทางอาญาต่อการมีเสื้อเกราะและหมวกกันกระสุน รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ในการป้องกันตัวในครอบครอง" แถลงการณ์ระบุ

ทางด้านสื่อฮ่องกงได้แสดงปฏิกิริยาในเรื่องนี้ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฮ่องกง เฉิน อีหลันบอกว่า เสื้อเกราะและหมวกกันกระสุนไม่ใช่อาวุธ ไม่มีเหตุผลใดที่จะจับกุมช่างภาพเพราะเรื่องนี้