'สุมิโตโม'ถกซื้อธนาคารอาร์บีเอส

'สุมิโตโม'ถกซื้อธนาคารอาร์บีเอส

"สุมิโตโม มิตซุย" เปิดเจรจาซื้อธนาคารอาร์บีเอส ซิติเซน หวังขยายธุรกิจเข้าตลาดสหรัฐ

ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมธนาคารญี่ปุ่น "สุมิโตโม มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ " เปิดเจรจาซื้อธนาคารอาร์บีเอส ซิติเซน หวังขยายธุรกิจเข้าตลาดสหรัฐ ผ่านการทำข้อตกลงที่อาจมีมูลค่ามากถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงิน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สุมิโตโม กำลังเจรจากับรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ กรุ๊ป หรือ"อาร์บีเอส" เพื่อซื้อกิจการซิติเซน แบงก์ ธุรกิจธนาคารรายย่อยในสหรัฐ ของอาร์บีเอส ตอกย้่ำว่า บริษัทญี่ปุ่นยังสนใจที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดสหรัฐ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้บริหารของทั้ง 2 ธนาคารได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเข้าซื้อกิจการอาร์บีเอส ซิติเซน ซึ่งมีสาขาเกือบ 1,400 แห่ง และมีสินทรัพย์ใน 12 รัฐกินพื้นที่ทั่วแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือและแถบมิดเวสต์ของสหรัฐ

อย่างไรก็ดี การหารือระหว่างสุมิโตโม ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่สุดอันดับ2 ของญี่ปุ่น และอาร์บีเอส ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นอยู่ 81% ยังอยู่ในขั้นต้น และเป็นการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งอาจจะไม่มีความคืบหน้ามากไปกว่านี้ ขณะที่แหล่งข่าวบางคนมองว่าโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงนี้ร่วมกันมีไม่ถึง 50%

ที่ผ่านมา อาร์บีเอสมีแผนที่จะทำไอพีโอ อาร์บีเอส ซิติเซน ในช่วงปลายปีนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม ที่จะระดมเงินทุน ท่ามกลางแรงกดดันจากคณะผู้คุมกฏระเบียบด้านการธนาคารในอังกฤษ ขณะที่โฆษกสุมิโตโม มิตซุย ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในประเด็นนี้

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า แผนทำไอพีโอจะช่วยเพิ่มเงินทุนให้แก่อาร์บีเอสอย่างน้อย 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคณะผู้บริหารของสุมิโตโม มิตซุย จำเป็นต้องเสนอซื้อกิจการซิติเซนมากกว่าจำนวนเงินที่คาดว่าจะระดมทุนได้ เพื่อให้อาร์บีเอสขายกิจการให้ ซึ่งไม่น่าจะใช่สิ่งที่บรรดานายแบงก์ชาวญี่ปุ่นเห็นด้วยง่ายนัก

ด้านดีลลอจิกส์ บริษัทวิจัยด้านการเงินระบุว่า หากมีการเสนอซื้ออาร์บีเอส ซิติเซนกันที่ราคา 10,000 ล้านดอลลาร์ ก็ถือเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงิน ไม่นับการเข้ามาอุ้มกิจการธนาคารของภาครัฐ