สีหนุวิลล์เร่งสร้างระยะ6รับการค้า-ลงทุนเปิดเออีซี

สีหนุวิลล์เร่งสร้างระยะ6รับการค้า-ลงทุนเปิดเออีซี

สีหนุวิลล์ เติบโตรับเปิดเออีซีสินค้าผ่านท่าทะลุ 100% เร่งแผนก่อสร้างท่าเรือระยะที่ 6 ทุ่มลงทุนอีก 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ความชัดเจนของโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ประเทศพม่า ภายหลังการลงนามร่วมกันระหว่างประเทศไทยและพม่า ในการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) เพื่อดำเนินโครงการอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งโครงการก่อสร้างท่าเรือปากบารา เพื่อเป็นท่าเรือน้ำลึกอีกแห่งของประเทศไทย ตามแผน พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ทำให้ภาพของการคมนาคมขนส่งทางน้ำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้นี้ มีความชัดเจนมากขึ้น

สำหรับในประเทศกัมพูชาซึ่งมีทางออกทางทะเลไม่มากนัก ท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบันคือท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์ ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดเขตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ สำหรับส่งเสริมอุตสาหกรรมโดยมีเป้าหมาย ในการดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่กัมพูชา

นายเปน สิทา (Pen Sitha) รองผู้อำนวยการท่าเรือสีหนุวิลล์ (PAS) กล่าวว่าท่าเรือสีหนุวิลล์ ที่ตั้งอยู่ในเขต จ.สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันถือว่าเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของกัมพูชาที่ทำหน้าที่เป็นประตูการค้าส่งออกจากกัมพูชาไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากที่ตั้งท่าเรือแห่งนี้ถือว่ามีที่ตั้งที่ได้เปรียบในการขนส่งสินค้าภายในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากสีหนุวิลล์อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองสำคัญ 2 เมือง คือ กรุงเทพมหานคร และเมืองโฮจิมินห์ประเทศเวียดนาม ซึ่งทั้งสองเมืองมีทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีในอนาคต

สีหนุวิลล์ทำเลที่ตั้งกึ่งกลางท่าเรือใหญ่
นอกจากนั้นยังมีที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) ของไทยมากนัก ซึ่งพื้นที่ใน Eastern Seaboard ก็มีอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก ปัจจุบันท่าเรือสีหนุวิลล์จึงทำหน้าที่ ในการรองรับสินค้าต่างๆจากนิคมอุตสาหกรรมของไทย เพื่อกระจายสินค้าต่อไปยังกัมพูชาและเวียดนามได้อย่างรวดเร็ว ผ่านเส้นทางการคมนาคมทางบก

นอกจากนี้สินค้าบางส่วนยังถูกส่งออกจากท่าเรือสีหนุวิลล์ ไปยังท่าเรือน้ำลึกอื่นๆ เช่น ท่าเรือน้ำลึกนานาชาติในสิงคโปร์ และฮ่องกง จากนั้นสินค้าจะถูกส่งต่อไปยังตลาดการค้าสำคัญๆของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น

ท่าเรือสีหนุวิลล์เดิมเป็นท่าเรือที่ใช้สำหรับการขนส่งคมนาคม ภายในประเทศกัมพูชาเท่านั้น โดยมีการก่อสร้างในระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 1956 - 1959 และมีการก่อสร้างและขยายเพิ่มเติมมาเป็นระยะ จนถึงระยะที่ 5 มีการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.2012 โดยในปัจจุบันได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรม โดยรัฐบาลกัมพูชาให้สิทธิพิเศษหลายประการ ได้แก่ การให้สัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว 50 ปี การยกเว้นภาษานำเข้าสินค้าและวัตถุดิบ เครื่องจักรและเครื่องมือในการผลิต การยกเว้นภาษีส่งออก การยกเว้นภาษีเงินได้จากผลกำไร 9 ปี รวมทั้งการให้วีซ่าถาวรแก่นักลงทุนและครอบครัวของนักลงทุนเพื่อจูงใจให้มีการประกอบธุรกิจ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ในระยะยาว

ชี้อัตราขนส่งขยายตัวสูง 117%
สำหรับการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือสีหนุวิลล์มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณตู้สินค้าทั่วไปรวมทั้งสินค้าประเภทเชื้อเพลิง ใน 4 เดือนแรกของปี 2013 (ม.ค.-เม.ย.) ปีปริมาณ 1,012,280 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2012 ที่มีสินค้าขนส่งผ่านท่าเรือ 858,148 ตัน หรือในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีปริมาณสินค้าผ่านท่าเรือสีหนุวิลล์เพิ่มขึ้นถึง 117.96%

โดยสินค้าหลายรายการที่นำเข้าผ่านท่าเรือนี้ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องจักร ปูนซีเมนต์ น้ำตาล เหล็ก เกลือ รวมทั้งเชื้อเพลิงประเภทต่าง โดยสินค้าส่วนใหญ่จะกระจายไปยังเมืองต่างๆของประเทศกัมพูชา และส่วนหนึ่งจะถูกส่งต่อไปยังประเทศเวียดนามผ่านเส้นทางคมนาคมทางบก โดยในปีที่ผ่านมาสินค้าประเภทเครื่องจักร และวัสดุก่อสร้างมีปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง และภาคอุตสาหกรรมของกัมพูชาและเวียดนาม โดยสินค้าประเภทเครื่องจักรที่นำเข้าผ่านท่าเรือสีหนุวิลล์มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 120.95% ขณะที่เหล็กมีการนำเข้าเพิ่มถึง 193.75%

ส่วนสินค้าส่งออกจากกัมพูชาที่ผ่านท่าเรือสีหนุวิลล์ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าวโพด ชิ้นไม้แปรรูป มันสำปะหลัง และข้าว โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ข้าวเป็นสินค้าที่มีการส่งออกผ่านท่าเรือสีหนุวิลล์เพิ่มขึ้นสูงสุด โดยมีการส่งออก 90,969 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 195.25%

เล็งแผนขยายท่าเรือระยะ 6
รองผู้อำนวยการท่าเรือสีหนุวิลล์ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากอัตราค้าและตู้คอนเทนเนอร์ที่ผ่านเข้าออกในท่าเรือสีหนุวิลล์ มาปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากการขยายท่าเรือในระยะที่ 5 ที่ได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จ บอร์ดบริหารของท่าเรือสีหนุวิลล์ ยังเห็นชอบแผนการขยายการลงทุนท่าเรือน้ำลึกในระยะที่ 6 ซึ่งจะมีการก่อสร้างในระหว่างปี 2014 - 2017 โดยเป็นท่าเรือที่ออกแบบให้สามารถรองรับท่าเรือขนาดใหญ่ เช่น สามมารถรองรับเรือบรรทุกเชื้อเพลิง และน้ำมันที่มีขนาด 2 - 3 หมื่นตัน โดยเป็นท่าเรือน้ำลึกที่มีความลึกของล่องน้ำ 7.5 เมตร โดยใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เชื่อขนส่งทางเรือโตสูงหลังเออีซี
นายกิจประภา ประสิทธิเวช ผู้จัดการท่าเรือ ส.กฤตวันต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชา คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 - 5,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 12,000 ล้านบาทต่อปี โดยสินค้าส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังท่าเรือสีหนุวิลล์ เพื่อขนส่งผ่านเส้นทาง R10 ไปยังเมืองต่างๆในกัมพูชาและเวียดนาม ส่วนการขนส่งสินค้าทางเรือไปยังเวียดนามทางเรือ ยังไม่สามารถทำได้โดยตรง

อย่างไรก็ตามคิดว่าหลังเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 รัฐบาลทั้งสองประเทศน่าจะหยิบเรื่องนี้มาพูดคุยกัน เพราะการส่งสินค้าทางเรือมีต้นทุนที่ถูกกว่าการขนส่งสินค้าทางบก

ทั้งนี้ปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาจึงนิยมขนส่งทางเรือมากกว่า โดยใช้ท่าเรือเอกชนในจังหวัดตราดได้แก่ท่าเรือ ส.กฤตวัน ท่าเรือชลาลัย และท่าเรือกัลปปังหา โดยหาสินค้าที่ขนส่งผ่านท่าเรือส่วนใหญ่ เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำตาลวัสดุก่อสร้างโดยการเดินทางจะนำสินค้าขึ้นที่ท่าเทียบเรือในจังหวัดตราด (บ้านหาดเล็ก) และขนส่งไปยังปลายทางเป็นท่าเรือในประเทศกัมพูชา 2 แห่งคือ- ท่าเรือสีหนุวิวล์(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง) รับสินค้าจากจ.ตราดสัดส่วน 30% และท่าเรือมงนที ปัจจุบันรับสินค้าจากจ.ตราด 70%