มาเลเซียปราบมุสลิมฟิลิปปินส์บุกรุกซาบาห์

ตำรวจและทหารมาเลเซีย ยืนยันว่าจะเดินหน้าปราบปรามชาวมุสลิมซูลูจากฟิลิปปินส์ ที่บุกยึดพื้นที่บางส่วนของรัฐซาบาห์ในมาเลเซียต่อไป
หัวหน้าสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย อิซมาอิล โอมาร์ นำภาพของกองกำลังชาวมุสลิมซูลูจากฟิลิปปินส์ที่ถูกทหารมาเลเซียยิงเสียชีวิต และอาวุธที่ยึดได้ มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ และบอกว่า จะเดินหน้าปราบปรามกองกำลังมุสลิมซูลูต่อไป เพราะผู้บุกรุกไม่มีทีท่าว่าจะยอมจำนน และจะเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนนอกชายฝั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกล่องเรือเข้ามาในรัฐซาบาห์อีก
ทหาร-ตำรวจมาเลเซีย และกองกำลังซูลูจากฟิลิปปินส์ ได้สู้รบกันอย่างดุเดือดราว 1 สัปดาห์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นตำรวจมาเลเซีย 8 นาย และทำให้ชาวบ้านในรัฐซาบาห์อย่างน้อย 2 พันคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว
รัฐซาบาห์ ของมาเลเซีย ที่อยู่บนเกาะบอร์เนียว ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากหมู่เกาะซูลู ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้กองกำลังมุสลิมจากฟิลิปปินส์ กว่า 180 คน เดินทางด้วยเรือ เข้ามายึดพื้นที่บางส่วนในรัฐซาบาห์ไว้ ตั้งแต่วันที่ 9กุมภาพันธ์ โดยบอกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว กองกำลังนี้เป็นผู้สนับสนุนของสุลต่านจามาลัล กิราม ที่ 3 แห่งซูลู ซึ่งอ้างมาโดยตลอดว่า รัฐซาบาห์เป็นส่วนหนึ่งของรัฐสุลต่านซูลู และที่ผ่านมา มีชาวฟิลิปปินส์ราว 8 แสนคนแล้ว ที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในรัฐซาบาห์
ส่วนโฆษกของสุลต่านกิรามที่ 3 บอกว่า กองกำลังซูลูเผชิญกับการโจมตีอย่างหนักทั้งทางบก อากาศ และทางทะเลจากทหารมาเลเซีย แม้พวกเขาได้ยื่นข้อเสนอหยุดยิงแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิ๊บ ราซัค บอกว่า ข้อเสนอหยุดยิงไม่เพียงพอ แต่พวกเขาต้องยอมวางอาวุธด้วย
เมื่อกว่าร้อยปีก่อน รัฐสุลต่านซูลูเคยมีอาณาเขตครอบคลุมถึงทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียวที่กลายเป็นรัฐซาบาห์ของมาเลเซียในปัจจุบัน และมาเลเซียได้ยอมจ่ายค่าเช่าที่ดินให้สุลต่านของรัฐแห่งนี้เรื่อยมาปีละเกือบ 1,700 ดอลลาร์ หรือ 51,000 บาท แต่ขณะนี้สุลต่านกิราม ที่ 3 ต้องการให้มาเลเซียจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากรายได้ของรัฐซาบาห์







