ฟิลิปปินส์เล็งคลายกฎธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยน

นายอาแมนโด เททังโก ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กล่าวว่าฟิลิปปินส์อาจผ่อนคลายกฎเกี่ยวกับธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อบรรเทาการแข็งค่าของเงินเปโซ อันกระทบต่อการส่งออก แต่ไม่ต้องการจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ย เพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินเปโซ

นายเททังโกเสริมว่าไม่มีภัยคุกคามจากแนวโน้มเงินเฟ้อ แม้คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโต 7%

ธนาคารกลางกำลังศึกษามาตรการเปิดเสรีอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น อย่างการเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ ซื้อดอลลาร์จากระบบธนาคาร เพื่อนำไปชำระเงินกู้ต่างประเทศ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วจำกัดระยะเวลาการชำระเงินดังกล่าวไว้เพียง 3 เดือน แต่นายเททังโกกล่าวว่าอาจอนุญาตให้ซื้อดอลลาร์ไปชำระเงินกู้ได้อีกในเวลาที่ยาวนานกว่าเดิม

คำพูดของผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์สะท้อนว่าทางการคาดหมายว่ากระแสทุนจะยังไหลเข้าตลาดในเอเชียที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว นายเอมิลิโอ เนริ นักเศรษฐศาสตร์แห่งแบงก์ออฟฟิลิปปินส์ไอส์แลนด์ กล่าวว่าเงินเฟ้อที่ต่ำ เศรษฐกิจที่ขยายตัวในระดับสูง และความเป็นไปได้ของการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ เป็นปัจจัยที่ดึงดูดกระแสเงินทุน โดยฟิลิปปินส์ตั้งเป้าว่าปีนี้เศรษฐกิจจะโต 6-7% หลังจากขยายตัว 6.6% เมื่อปีที่แล้ว อันเป็นการขยายตัวสูงที่สุดในเอเชียรองจากจีน

เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ 3.5%

กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างมากดันให้ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์พุ่งขึ้นแล้ว 11% ในปีนี้ นับเป็นการปรับตัวของดัชนีที่ดีเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากเวียดนาม ส่วนเงินเปโซสูงขึ้น 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ หลังจากทะยานขึ้นเกือบ 7% เมื่อปีที่แล้ว

แนวทางของธนาคารกลางฟิลิปปินส์แตกต่างกับของประเทศอื่น อย่างเกาหลีใต้และอินโดนีเซียที่ประสบปัญหาเงินแข็งค่า ผลจากการไหลเข้าของเงินทุนจากประเทศพัฒนาแล้ว สืบเนื่องจากสภาพการเงินที่ผ่อนคลายในประเทศเอเชีย โดยเกาหลีใต้ได้ใช้มาตรการควบคุมเงินทุนเพื่อป้องกันการไหลออกอย่างกระทันหันของกระแสเงิน กระทบต่อเงินวอน หรือเป็นสาเหตุของเงินตึงตัว นอกจากนั้น เกาหลีใต้ยังพูดทำนองว่าธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค อาจต้องลงมือกันอย่างสอดประสาน