ชัตดาวน์ป่วนหนัก! สหรัฐยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,200 เที่ยว ไฟลท์ดีเลย์อื้อ

สนามบินทั่วสหรัฐต้องพบกับความโกลาหลอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อสายการบินทั่วประเทศเริ่มทยอย "ยกเลิกเที่ยวบิน" มากกว่า 1,200 เที่ยวบิน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) มีคำสั่งลดเที่ยวบินลง เนื่องจากภาวะ "ชัตดาวน์" ของรัฐบาลที่ยืดเยื้อมานานกว่าหนึ่งเดือน และทุบสถิติยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐไปแล้ว

คำสั่งลดเที่ยวบินมีขึ้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ "ไม่ได้รับเงินเดือน" ตลอดช่วงที่รัฐบาลปิดทำการจากภาวะชัตดาวน์ การขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินส่งผลให้เที่ยวบินตามสนามบินหลักๆ ของสหรัฐเกิดความล่าช้า และสร้างความเดือดร้อนทั้งต่อผู้โดยสารและผู้บริหารสายการบิน

มีรายงานว่านอกจากการยกเลิกเที่ยวบินแล้ว ยังส่งผลกระทบให้มีเที่ยวบินล่าช้ามากถึงกว่า 4,000 เที่ยว

CNBC ระบุว่า คำสั่งยกเลิกเที่ยวบิน ของ FAA เกิดขึ้นกับสนามบินประมาณ 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่เช่น นวร์ก ลิเบอร์ตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ (EWR),  จอห์น เอฟ เคนเนดี (JFK), ซานฟรานซิสโก (SFO), ชิคาโก โอแฮร์ (ORD)  และฮาร์ตสฟิลด์–แจ็กสัน ในแอตแลนตา (ATL)

ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน FlightAware ระบุว่า มีเที่ยวบินมากกว่า 1,200 เที่ยวบินถูกยกเลิกในวันศุกร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทข้อมูลการบินซีเรียมให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า มีเที่ยวบินในสหรัฐประมาณ 780 เที่ยวถูกยกเลิกภายในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันศุกร์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3% ของเที่ยวบินทั้งหมดในวันนั้น ซึ่งแม้จะเป็นระดับที่พบได้ในกรณีที่มีพายุรุนแรง แต่กระทรวงคมนาคมสหรัฐเตือนว่าการยกเลิกเที่ยวบินอาจขยายวงกว้างขึ้น

ตามคำสั่งของ FAA การลดเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายในสัปดาห์หน้า โดยเริ่มจาก 4% ในวันศุกร์ เพิ่มเป็น 6% ภายในวันอังคาร 8% ภายในวันพฤหัสบดี และจะแตะ 10% ในวันที่ 14 พ.ย.

ทางด้าน FAA ยังไม่ได้ตอบคำถามหรือให้ความเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่โฆษกของสมาคมการบินธุรกิจแห่งชาติ (NBAA) กล่าวว่า อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน และความสามารถในการให้บริการที่ลดลง ซึ่งสนามบินบางแห่งอาจปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินบางลำลงจอดได้

บรรดาสายการบินขนาดใหญ่เปิดเผยว่า ความวุ่นวายส่วนใหญ่กระทบต่อเที่ยวบินภูมิภาคที่บินไปยังเมืองเล็กๆ แต่เที่ยวบินระหว่างประเทศระยะไกลจะไม่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว 

ขณะที่อเมริกัน แอร์ไลน์ส ระบุว่ากำลังพยายามลดผลกระทบต่อผู้โดยสาร โดยหลีกเลี่ยงการตัดเที่ยวบินในเส้นทางที่มีให้บริการเพียงวันละหนึ่งหรือสองเที่ยว แต่จะลดจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางที่มีความถี่สูงแทน ซึ่ง อเมริกัน แอร์ไลน์สยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว 221 เที่ยวในวันศุกร์ 

เตือนอาจลดเที่ยวบินถึง 20% 

ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐ เตือนว่า อาจสั่งให้ สายการบินลดเที่ยวบิน ลงถึง 20% หากภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลยังยื้ดเยื้อต่อ โดยหากสถานการณ์เลวร้ายลงและเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินไม่มาทำงานมากขึ้น เขาอาจต้องสั่งลดเที่ยวบินลงถึง 20% 

“ผมประเมินข้อมูลอยู่ตลอดเวลา” เขากล่าว “เราจะตัดสินใจตามสิ่งที่เห็นในน่านฟ้า”

ทั้งนี้ ในระหว่างการชัตดาวน์ของรัฐบาลที่ยาวนานถึง 38 วัน มีเจ้าหน้าที่การบินต้อง "ทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง" มากถึงกว่า 60,000 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ 13,000 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามบิน 50,000 คน ทำให้มีคนไม่มาทำงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินจำนวนมากได้รับแจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะไม่ได้รับค่าจ้างสำหรับรอบการจ่ายเงินครั้งที่สองในสัปดาห์หน้า

รอยเตอร์สระบุว่า รัฐบาลทรัมป์พยายามเพิ่มแรงกดดันต่อพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสให้ยอมรับแผนของพรรครีพับลิกันในการจัดสรรงบประมาณเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์และเปิดทำการหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางอีกครั้ง

ด้านพรรคเดโมแครตกล่าวหาว่า พรรครีพับลิกันหยิบยกประเด็นความวุ่นวายของภาคการบินขึ้นมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือกดดัน และพรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบต่อภาวะชัตดาวน์ เนื่องจากปฏิเสธที่จะเจรจาเรื่องการขยายเงินอุดหนุนประกันสุขภาพ