บริษัทอเมริกันแห่เลิกจ้าง ‘สูงสุดในรอบกว่า 20 ปี’

บริษัทอเมริกันแห่เลิกจ้าง ‘สูงสุดในรอบกว่า 20 ปี’

บริษัทอเมริกันเลิกจ้างพนักงาน ‘มากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี’ ขณะที่กระแสนำ AI เข้ามาแทนแรงงานมนุษย์ และการรัดเข็มขัดด้านต้นทุน ทำให้การจ้างงานใหม่ซบเซาอย่างหนัก แม้ประธานเฟดยังยืนยันว่า ตลาดแรงงานเพียง ‘ชะลอลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป’ แต่ตัวเลขจริงกลับบอกเรื่องราวอีกด้าน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทในสหรัฐ ประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน “มากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี” ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรม และบริษัทต่างๆ เร่งเดินหน้าลดต้นทุน ตามข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาด้านการจ้างงาน Challenger, Gray & Christmas 

เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทต่างๆ ในสหรัฐ ประกาศเลิกจ้างพนักงานรวม 153,074 ตำแหน่ง ซึ่งเกือบ สามเท่าของจำนวนการเลิกจ้างในเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยแรงกดดันหลักมาจาก “ภาคเทคโนโลยี” และ “คลังสินค้า” ซึ่งถือเป็นจำนวนการปลดพนักงานสูงสุดในเดือนตุลาคม นับตั้งแต่ปี 2003 

“บางอุตสาหกรรมกำลังปรับฐานหลังจากช่วงที่มีการจ้างงานพุ่งสูงในยุคโควิด-19 แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เพราะการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ การใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาคธุรกิจที่ชะลอตัวลง รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้น ต่างทำให้บริษัทต้องรัดเข็มขัด และหยุดการจ้างงานใหม่” แอนดี้ ชาเลนจ์เจอร์ กล่าวในรายงานของ Challenger, Gray & Christmas

“ผู้ที่ถูกเลิกจ้างในขณะนี้กำลังพบว่า การหางานใหม่ทำได้ยากขึ้น ซึ่งอาจยิ่งทำให้ตลาดแรงงานโดยรวมเปราะบางไปอีก ตัวเลขถือว่า ‘อ่อนแอ’ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม” แอนดี้ กล่าว

ทั้งนี้ ยอดการเลิกจ้างสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน “ทะลุ 1 ล้านตำแหน่ง” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นายจ้างในสหรัฐ ประกาศแผนการจ้างงานใหม่ “น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011”

ส่วนแผนการจ้างงานตามฤดูกาลจนถึงเดือนตุลาคม ก็อยู่ในระดับ “ต่ำที่สุด” นับตั้งแต่บริษัท Challenger เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2012

สำหรับกระแสเลิกจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจสร้างความกังวลต่อความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ อีกทั้งตัวเลขเหล่านี้ ยัง “ขัดแย้งบางส่วน” กับคำกล่าวของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐที่ระบุว่า ตลาดแรงงานสหรัฐ กำลัง “ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป” เท่านั้น

ด้านเจมี ไดมอน ซีอีโอของสถาบันการเงิน JPMorgan Chase มองว่า ธนาคารจะโยกย้ายพนักงานจากตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบจาก AI ไปยังตำแหน่งใหม่ แทนที่จะปลดออก โดยยอมรับว่า AI จะช่วยลดภาระงานของมนุษย์ในหลายหน้าที่ แต่ขณะเดียวกัน ก็จะสร้างงานใหม่ขึ้นมาด้วย

ข้อมูลอีกชุดหนึ่งจาก Revelio Labs ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า การจ้างงานโดยรวมในสหรัฐ ลดลงราว “9,000 ตำแหน่ง” ในเดือนตุลาคม ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงใน “ภาครัฐบาล” 

ขณะที่ภาคการผลิต การค้าปลีก และการค้าส่ง ลดลงเล็กน้อย แต่ส่วน “ภาคการศึกษา” และ “บริการสุขภาพ” เป็นกลุ่มที่มีการ “จ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด”

 

 

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์