ซีอีโอ Nvidia ‘เทขายหุ้นตัวเอง’ กวาดเงิน 32,000 ล้านบาท

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “เจนเซน หวง” ซีอีโอของบริษัทชิปปัญญาประดิษฐ์ Nvidia ได้ “ขายหุ้นของบริษัท” ไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ “กว่า 32,000 ล้านบาท” ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขายหุ้นตามแผนที่กำหนดไว้ก่อนหน้า

ในการขายรอบสุดท้ายจำนวน 25,000 หุ้นที่รายงานเมื่อวันศุกร์ ถือเป็นการปิดฉากแผนการขายหุ้นที่หวงวางไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม เพื่อทยอยขายหุ้นให้มากถึง “6 ล้านหุ้น” ภายในสิ้นปีนี้ โดยขณะเริ่มขายในช่วงปลายเดือนมิถุนายน หุ้นมีมูลค่ารวมประมาณ 865 ล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้น ราคาหุ้นได้พุ่งขึ้นมากกว่า 40% จากความต้องการชิปประมวลผลสำหรับ AI ที่พุ่งไม่หยุด

สำหรับบริษัท Nvidia ได้กลายเป็น “บริษัทแรกในโลก” ที่มีมูลค่าตลาดแตะ “5 ล้านล้านดอลลาร์” เมื่อวันพุธ หลังประกาศความร่วมมือใหม่กับพันธมิตรหลายรายเพียง 4 เดือน หลังจากที่เพิ่งผ่านระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ไปไม่นาน 

ทั้งนี้ Nvidia ได้สร้างมหาเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 3 คนในปีนี้ รวมถึง “บรูค ซีเวลล์” กรรมการบริษัท ที่เพิ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีจากมูลค่าหุ้นพุ่งแรงในช่วงไม่กี่วันมานี้

ในปัจจุบัน หวงในวัย 62 ปี อยู่อันดับที่ 9 ในดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ด้วยความมั่งคั่งสุทธิ 175,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 61,300 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปีนี้

ตามข้อมูลของ Bloomberg หวงได้ขายหุ้น Nvidia ไปแล้วรวมกว่า 2,900 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2001 และยังถือครองหุ้นอยู่ราว 3.5% ของบริษัท เขายังได้บริจาคหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ให้กับมูลนิธิของตนเองและกองทุนการกุศลอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หวงไม่ได้เป็นคนเดียวในบริษัทที่กอบโกยความมั่งคั่งจากกระแสปัญญาประดิษฐ์ครั้งนี้ เพราะการขายหุ้นของเขายัง “ถูกแซงหน้า” ในไตรมาส 3 โดย “เจย์ศรี อุลลาล” ซีอีโอของบริษัทเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Arista Networks ซึ่งขายหุ้นไปมูลค่ากว่า 861 ล้านดอลลาร์ และอยู่ในอันดับที่ 2 รองจาก “เจฟฟ์ เบโซส” ประธานบริษัท Amazon.com ในรายชื่อผู้บริหารระดับสูงที่ขายหุ้นมากที่สุด 

ขณะที่ผู้บริหารของ CoreWeave บริษัทคลาวด์คอมพิวติ้งด้าน AI ก็ขายหุ้นรวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียว หลังจากครบกำหนดห้ามขายหุ้น ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ตามข้อมูลของ Washington Service ซึ่งติดตามข้อมูลการขายหุ้นของผู้บริหาร พบว่า ผู้บริหารของ Nvidia รวมถึงหวง ได้ขายหุ้นNvidiaรวมมูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ และตลอดปี 2024 ผู้บริหารของ Nvidia ขายหุ้นรวมกันมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 462 ล้านดอลลาร์ในปี 2023

แม้หลายบริษัทจะได้ประโยชน์จากกระแส “ทองคำดิจิทัล” แห่งยุค AI แต่ Nvidia กลับโดดเด่นกว่าใครในแง่ของ “การสร้างความมั่งคั่ง” จนมีมหาเศรษฐีถึง 7 คน อยู่ในบริษัทเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ธุรกิจเทคโนโลยี

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โคเล็ท เครสส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Nvidia และ เจย์ พูรี รองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการภาคสนามของ Nvidia ซึ่งดูแลด้านการขายและการตลาด ต่างก็กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินสุทธิราว 1,200 ล้านดอลลาร์ต่อคน 

ขณะเดียวกัน เทนช์ ค็อกซ์ กรรมการบริษัท Nvidia ก็เพิ่งติดอันดับหนึ่งใน 500 มหาเศรษฐีโลก ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 7.5 พันล้านดอลลาร์ 

ส่วนกรรมการร่วมอีกคนคือ มาร์ก สตีเวนส์ อยู่ในอันดับที่ 247 ด้วยความมั่งคั่ง 12.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากการถือหุ้น Nvidia และยังมีกรรมการอีกคนคือ ฮาร์วีย์ โจนส์ ถือหุ้นมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์

ไม่เพียงเท่านั้น บรูค ซีเวลล์ ตัวแทนของบริษัทร่วมลงทุน Nvidia ก็เป็นสมาชิกคนล่าสุดของ “คลับมหาเศรษฐี Nvidia” โดยมีทรัพย์สินสุทธิแตะ 1.1 พันล้านดอลลาร์ (รวมครอบครัวและทายาท) 

อ้างอิง: bloomberg