ทรัมป์เล็งลงนามข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างเยือนเอเชียกดดัน‘สี จิ้นผิง’

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เล็งลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจและแร่ธาตุสำคัญกับคู่ค้าระหว่างเยือนเอเชีย เพื่อเพิ่มแรงกดดดันจีนก่อนพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลวอชิงตันกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (24 ต.ค.) ก่อนทรัมป์ออกเดินทางว่า ประธานาธิบดีต้องการทำข้อตกลงเพื่อช่วยปลดล็อกทรัพยากรในภูมิภาคเอเชียนำมาสร้างซัพพลายเชนที่หลายๆ อุตสาหกรรมพึ่งพาได้มากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เผยรายละเอียดข้อตกลงที่ประธานาธิบดีต้องการทำ
การเยือนครั้งนี้ ทรัมป์จะไปร่วมประชุมผู้นำอาเซียนที่มาเลเซีย ตามด้วยญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เพื่อประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) โดยจะพบกับสีที่นั่นถือเป็นโอกาสที่ผู้นำสองเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกจะได้แก้ข้อพิพาทเรื่องภาษีและการควบคุมการส่งออก
การขนส่งแร่ธาตุหายาก ซึ่งจำเป็นต่อหลายภาคส่วน อาทิ เทคโนโลยี กลาโหม และพลังงาน จะเป็นหัวใจสำคัญในการหารือ หลังจีนประกาศควบคุมแรร์เอิร์ธและแร่ธาตุสำคัญอื่นๆ เข้มงวดยิ่งขึ้นในสงครามการค้ารอบใหม่กับสหรัฐ การที่จีนควบคุมซัพพลายเชนโลหะได้ทำให้สีได้เปรียบในศึกนี้
ทรัมป์โต้ตอบด้วยการขู่ว่าจะเก็บภาษีจีนเพิ่มอีก 100% ภายในวันที่ 1 พ.ย. หากรัฐบาลปักกิ่งไม่ยกเลิกข้อจำกัดเหล่านั้น
ขณะเดียวกันเขาก็ขยับหาแหล่งแร่ธาตุและการถลุงแร่ธาตุสำคัญในที่อื่นๆ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมอเมริกัน ไม่กี่วันก่อนทรัมป์เพิ่งลงนามข้อตกลงประวัติศาสตร์กับนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลีย เพิ่มการเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญของสหรัฐ ที่นายกฯ ออสเตรเลียเผยว่า มีมูลค่าถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์
ก่อนพบกับ สี จิ้นผิง ทรัมป์ยังหาทางเพิ่มน้ำหนักในการเจรจาของตนด้วย ก่อนหน้านั้นในวันศุกร์ รัฐบาลทรัมป์ประกาศว่ากำลังสอบสวนว่า จีนปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงการค้าฉบับย่อที่เคยทำไว้สมัยทรัมป์ 1 หรือไม่ การสอบสวนเปิดช่องให้เก็บภาษีปักกิ่งได้อีก
นอกจาก แรร์เอิร์ธ แล้ว ทรัมป์ยังพยายามจูงใจสีให้จีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐ ปราบปรามการลักลอบขนเฟนทานิล และกดดันประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครน โดยข้อตกลงภาษีปัจจุบันจะหมดอายุลงในเดือน พ.ย. หากผู้นำทั้งสองไม่ขยายเวลา
ในโอกาสเยือนเอเชีย ทรัมป์มีกำหนดหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีอี แจมย็องของเกาหลีใต้ด้วย รัฐบาลโซลนั้นพยายามสรุปข้อตกลงการค้าการลงทุนกับวอชิงตันเพื่อลดภาษี







