เทรดวอร์ ‘จีน-สหรัฐ’  สู่วิกฤติอุปทาน ‘ทองแดง’ โลหะแห่งอนาคต เสี่ยงขาดแคลน

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐ-จีน ที่กลับมาปะทุอีกครั้ง กำลังส่งสัญญาณเตือนภัยในตลาด "ทองแดง" ซึ่งเป็นโลหะสำคัญต่ออนาคต ทั้งในยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือ “AI”, การเปลี่ยนผ่านพลังงาน, และการป้องกันประเทศ

แมตต์ แชมเบอร์เลน ซีอีโอของตลาดโลหะแห่งลอนดอน (LME) เปิดเผยว่า ข้อพิพาทล่าสุดด้านแร่ธาตุหายากระหว่างสองมหาอำนาจได้กลายเป็นบทเรียนสำคัญให้กับตลาดทองแดง โดยเน้นย้ำถึง "ความเปราะบาง" ของห่วงโซ่อุปทานโลก

ดีมานด์พุ่ง เสี่ยงเกิดวิกฤติซัพพลาย

Wood Mackenzie ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังในอุตสาหกรรมพลังงาน เผยว่า ความต้องการทองแดงทั่วโลก คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 24% หรือเพิ่มขึ้น 8.2 ล้านตันต่อปี ในทศวรรษหน้า จากแรงผลักดันหลัก 4 ด้าน  ซึ่งอาจผลักดันให้ความต้องการรวมเติบโตได้ถึง 40%  ภายในปี 2578

• ประแส AI และศูนย์ข้อมูลบูม ทำให้ทองแดงจำเป็นต่อเซมิคอนดักเตอร์ สายเคเบิล และระบบระบายความร้อนที่ใช้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI
• การใช้จ่ายด้านกลาโหม งบประมาณด้านการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้น
• การพัฒนาอุตสาหกรรมในเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• การเปลี่ยนผ่านพลังงาน โดยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานหมุนเวียน

สัญญาณความตึงตัวด้านอุปทานได้ปรากฏให้เห็นแล้วในตลาด โดยราคาซื้อขายของ ทองแดงใน LME ได้พุ่งสูงกว่าราคาสัญญาล่วงหน้า 3 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงการขาดแคลนในระยะสั้น

ทั่วโลกเร่งหาทางกระจายอุปทาน

ซีอีโอ LME กล่าวว่า การหยุดชะงักด้านอุปทานที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งตอกย้ำความจำเป็นที่ "ทุกประเทศ" ต้องพิจารณาเรื่องความหลากหลายของแหล่งที่มา และการส่งมอบทองแดง ทำให้มีการพูดคุยในหมู่ผู้ผลิตตะวันตกเรื่องการลงทุนซ้ำในกำลังการผลิตการถลุงทองแดง  เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งผลิตใดแหล่งผลิตหนึ่ง

นอกจากนี้ มีรายงานว่า Aurubis ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดในยุโรป กำลังหารือกับรัฐบาลสหรัฐ เพื่อสร้างโรงหลอมแห่งใหม่ในประเทศ ซึ่งอาจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

Charles Cooper ผู้เชี่ยวชาญด้านทองแดงจาก Wood Mackenzie เตือนว่า ทองแดงกำลังกลายเป็น "อุปสรรคสำคัญ" ของการเปลี่ยนผ่านพลังงานโลก โดยระบุว่า หากรัฐบาล และนักลงทุนไม่เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปทาน โลกอาจเสี่ยงที่จะเปลี่ยน "โลหะแห่งพลังงานไฟฟ้า" ให้กลายเป็น "โลหะแห่งความขาดแคลน" ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเป้าหมายด้านสภาพอากาศ และเทคโนโลยีในอนาคต

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์