กาซาลุกเป็นไฟ อิสราเอลโจมตีเดือด หวังกำจัดฮามาส 3,000 คนให้ราบคาบ

เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) เผยเมื่อวันอังคารว่า กองทัพบกกำลังเคลื่อนเข้าไปในเมืองใหญ่ของกาซามากขึ้น และจะมีทหารเข้ามาสมทบอีกในสองสามวันข้างหน้า เพื่อเผชิญหน้ากับนักรบฮามาสที่มีมากถึง 3,000 คน ที่ไอดีเอฟเชื่อว่ายังคงอยู่ในกาซา

อิสราเอล แคตช์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โพสต์ใน X “กาซากำลังลุกเป็นไฟ” และว่า “ไอดีเอฟโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้ายด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด และทหารไอดีเอฟได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อสร้างเงื่อนไขในการปล่อยตัวประกัน และทำให้ฮามาสพ่ายแพ้”

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซาเผยว่า การโจมตีของอิสราเอลมุ่งไปที่รถคันหนึ่งที่มีผู้อพยพหลายคนกำลังเดินทางลงใต้ และการโจมตีในวันอังคารมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 75 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่ในกาซาซิตี้ แต่อิสราเอลไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มปฏิบัติการอิสราเอลได้ประกาศให้ประชาชนอพยพ ชาวปาเลสไตน์ต้องแห่หนีลงใต้ และไปทางตะวันตกด้วยเกวียน รถลาก ยานพาหนะบรรทุกหนัก หรือบางคนใช้วิธีการเดิน

ไอดีเอฟ คาดว่า มีประชาชนราว 40% ของกาซาซิตี้ที่อพยพออกจากเมือง ขณะที่ฮามาสบอกว่ามีประชาชนราว 350,000 คน ออกจากบ้านทางตะวันออกของเมืองมุ่งไปยังที่หลบภัยในตอนกลาง และตะวันตก ขณะที่คนอีก 175,000 คน ลงใต้

เอฟฟี เดฟริน โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า กองทัพกำลังปรับปรุงความพยายามด้านมนุษยธรรมเพื่อรองรับการอพยพ และย้ำว่าไม่มีสถานการณ์อดอยากเกิดขึ้นในฉนวนกาซา

ระหว่างปฏิบัติการ รัฐบาลอิสราเอลท้าทายผู้นำยุโรปที่ขู่คว่ำบาตร และเมินคำเตือนต่างๆ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารของอิสราเอลบางคนเตือนว่าปฏิบัติการดังกล่าวอาจเป็นความผิดพลาดที่ต้องแลกมาด้วยราคาแสนแพง

ด้านคณะกรรมาธิการสหประชาชาติชี้ว่าอิสราเอลได้ปฏิบัติการที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ขณะที่อิสราเอลเรียกการประเมินเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง และน่าอัปยศ

โฆษกจากคณะกรรมาธิการยุโรปเผยว่า คณะจะตกลงกันในวันพุธ (17 ก.ย.68) ว่าจะคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิสราเอล รวมถึงการระงับมาตรการด้านการค้าบางรายการ

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ยังคงเข้าข้างอิสราเอล และกล่าวกับผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาวว่า ฮามาสต้องชดใช้กรรม หากใช้ตัวประกันเป็นโล่มนุษย์ในระหว่างการสู้รบ 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์