มือสังหาร ‘ชาร์ลี เคิร์ก’ มีความผิด 7 กระทง จ่อโดนโทษประหารชีวิต

ไทเลอร์ โรบินสัน ผู้ต้องสงสัยสังหารชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายอนุรักษนิยมของสหรัฐ รับฟังข้อกล่าวหาครั้งแรกเมื่อวันอังคาร (16 ก.ย.68) นับตั้งแต่ถูกควบคุมตัว

ก่อนหน้านี้ อัยการยูทาห์ได้ตั้งบทลงโทษประหารต่อโรบินสัน โดยอ้างหลักฐานต่างๆ เพื่อเอาผิดเขา ซึ่งรวมถึงการส่งข้อความที่ดูเหมือนเป็นการสารภาพว่าเขาเป็นผู้ลงมือลอบสังหารเมื่อวันที่ 10 ก.ย.68 ในระหว่างงานเสวนาของเคิร์กที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัยยูทาห์วัลเลย์ (UVU)

ตามหลักฐานของอัยการที่ยื่นต่อศาล โรบินสันตอบกลับข้อความเมื่อเพื่อน และคนรักของเขาถามว่าทำไมเขาถึงลงมือสังหาร 

“ทนความเกลียดชังของเขาไม่ไหวแล้ว” โรบินสันตอบ และบอกด้วยว่า​ “ความเกลียดชังบางอย่างมันเจรจาไม่ได้”

อัยการได้ยื่นหลักฐานหลายประเภทเพื่อเอาผิดโรบินสัน ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานจากการสื่อสารของเขากับเพื่อน และครอบครัว

เอกสารที่ยื่นฟ้องได้เปิดเผยบทสนทนาของโรบินสันกับเพื่อนร่วมเรียนคนหนึ่งที่ชื่อเจฟฟ์ เกรย์ อัยการรัฐยูทาห์อธิบายว่าเป็นชายที่มีความสัมพันธ์โรแมนติกกับโรบินสัน ขณะที่สเปนเซอร์ ค็อกซ์ ผู้ว่าการรัฐยูทาห์อธิบายก่อนหน้านี้ว่าคนนี้เป็นเพื่อนที่แปลงเพศจากชายเป็นหญิง

การรับฟังข้อกล่าวหาแรก โรบินสันฟังผ่านวิดีโอขณะที่เขาอยู่ในเรือนจำที่ถูกคุมขัง แต่โรบินสันยังไม่โกนหนวดหรือโกนผม และสวมใส่ชุดที่ดูเหมือนเป็นเสื้อคลุมป้องกันการฆ่าตัวตาย

เขาไม่แสดงอาการอะไร แต่ฟังอย่างจดจ่อขณะที่ผู้พิพากษาอ่านข้อกล่าวหา และเตือนว่าเขาอาจได้รับโทษประหารชีวิต โรบินสันพูดเพียงหนึ่งครั้งคือ การพูดชื่อตัวเอง

ทั้งนี้ เกรย์ระบุว่า โรบินสันมีความผิด 7 กระทง และว่าเขาอาจได้รับโทษประหารจากการเป็นภัยคุกคามต่องานในมหาวิทยาลัยที่เคิร์กจัดงาน โดยเฉพาะต่อเด็ก และจากการสังหารเคิร์ก

ความผิด 7 กระทง 

1.ข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

2.ข้อหายิงปืนจนทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส

3.ข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมจากการย้าย และซ่อนปืนไรเฟิลที่ใช้ในการยิง

4.ข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม จากการถอด และซ่อนเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่

5.ข้อหาข่มขู่พยาน จากการสั่งให้เพื่อนร่วมเรียนลบข้อความที่อาจใช้เป็นหลักฐานเอาผิดเขาได้

6.ข้อหาข่มขู่พยานจากการสั่งให้เพื่อนร่วมเรียนเงียบ หากตำรวจสอบปากคำ

7.ข้อหากระทำความรุนแรงต่อหน้าเด็ก เนื่องจากการลอบยิงเคิร์กมีเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีเห็นเหตุการณ์ในงานดังกล่าวด้วย

ขณะที่ครอบครัวของโรบินสันให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แม่ของเขาหลังจากได้เห็นภาพผู้ต้องสงสัยก็คิดว่าเหมือนลูกชาย และได้โทรศัพท์ถามเขาว่าอยู่ที่ใด แต่เขาเพียงบอกว่าป่วยอยู่ที่บ้าน หลังจากนั้นจึงคุยกับสามี สามีก็เห็นด้วยว่าผู้ต้องสงสัยเหมือนลูกชาย และปืนที่ใช้ก่อเหตุก็คล้ายกับปืนที่เขาเคยให้ลูกเป็นของขวัญ

ต่อมาโรบินสันได้พูดคุยกับพ่อ และกล่าวว่าจะปลิดชีพตัวเอง แต่ครอบครัวได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขายอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่

แม่ของโรบินสันบอกว่า ช่วงปีที่แล้วลูกชายเริ่มสนใจการเมืองมากขึ้น และเอนเอียงไปทางซ้าย โดยหันไปสนับสนุนกลุ่มเกย์ และกลุ่มคนข้ามเพศมากขึ้น จากนั้นเริ่มคบหากับเพื่อนของเขาที่เป็นชายแปลงเพศเป็นหญิง

หลังจากนี้จะมีการพิจารณาคดีอีกครั้งวันที่ 29 ก.ย.68 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

โทนี่ กราฟ กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายความเพื่อเป็นตัวแทนของโรบินสัน และการพิจารณาคดีครั้งที่สองจะจัดขึ้นทาง WebEx กราฟย้ำด้วยว่าโรบินสันจะยังคงถูกควบคุมตัวโดยไม่มีการประกันตัว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์