'อินเดีย' ลดภาษี 'สินค้าอุปโภคบริโภค' หลาย 100 รายการ หวังกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ
อินเดียปรับลดอัตราภาษีสินค้าอุปโภคบริโภค หลาย 100 รายการ หวังกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ ในช่วงที่เผชิญภาษีทรัมป์ในอัตรา 50%
นิรมาลา สิตารามัน รัฐมนตรีคลังอินเดีย ประกาศเมื่อวันพุธ (3 ก.ย.) ลดภาษีสินค้าอุปโภคบริโภคหลายร้อยรายการ ตั้งแต่สบู่ไปจนถึงรถยนต์ขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศในช่วงที่เผชิญกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจจากแรงกดดันภาษีทรัมป์
สิตารามัน แถลงข่าวเมื่อคืนวันพุธว่า คณะกรรมการภาษีสินค้าและบริการ (GST) ได้อนุมัติปรับลดภาษีสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันหลายรายการ และปรับโครงสร้างภาษีให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น
การปรับลดภาษีเหล่านั้นพิจารณาจากโครงสร้างภาษีที่ซับซ้อนและหมวดภาษีที่มีจำนวนมาก และเพื่อทำให้โครงสร้างภาษีเรียบง่าย 8ณะกรรมการจึงอนุมัติโครงสร้างภาษี 2 อัตรา 5% และ 8% แทนที่จะเก็บ 4 อัตราในปัจจุบัน
รัฐมนตรีคลัง กล่าวว่า คณะกรรมการได้อนุมัติลดภาษีสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ยาสีฟันและยาสระผมสู่ระดับ 5% จาก 18% และรถยนต์ขนาดเล็ก เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ สู่ระดับ 18% จาก 28%
สิตารามันบอกว่าจะยกเลิกภาษีกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคลและประกันสุขภาพทั้งหมดด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้กำหนดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่เป็นบาป เช่น บุหรี่ รถยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร และเครื่องดื่มอัดลม ในอัตรา 40% อีกด้วย
รัฐบาลกลางและรัฐบาลระดับรัฐของอินเดีย คาดว่า จะสูญเสียรายได้ภาษี 480,000 ล้านรูปี ราว 1.77 แสนล้านบาท จากการปรับลดภาษีที่จะมีผลวันที่ 22 ก.ย. นี้ ซึ่งตรงกับเทศกาลนวราตรีของศาสนาฮินดู
อย่างไรก็ตาม หากรวมการลดภาษีรายได้ส่วนบุคคลที่ประกาศเมื่อเดือน ก.พ. รัฐบาลคาดว่า มาตรการปรับลดภาษีสินค้าใหม่นี้อาจช่วยกระตุ้นการบริโภคในอินเดียได้ ล่าสุดเศรษฐกิจอินเดียเติบโตในอัตราที่สูงเกินคาดถึง 7.8% ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าว คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น Hindustan Unilever และ Godrej Industries รวมถึงบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Samsung Electronics, LG Electronics และ Sony ขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Maruti, Toyota Motor และ Suzuki Motor ก็อาจได้รับอานิสงส์นี้ด้วย
ความเร่งรีบในการลดภาษีนี้เกิดขึ้นจากคำเรียกร้องของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ที่ต้องการให้อินเดียพึ่งพาตนเองมากขึ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว นายกฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะลดภาษีสินค้าและบริการ (GST) ภายในเดือนต.ค.เพื่อรับมือกับสหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอินเดียสูงถึง 50%
หลังจากมีประกาศลดภาษีดังกล่าวโมดีกล่าวว่า “การปฏิรูปที่ครอบคลุมจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นโดยเฉพาะผู้ประกอบการและธุรกิจรายย่อย”