ทรัมป์ลั่นไม่ส่งทหารไปยูเครนแต่อาจสนับสนุนทางอากาศ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวในวันอังคาร (19 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หนึ่งวันหลังให้คำมั่นในการประชุมพิเศษ ณ ทำเนียบขาว เรื่องการรับประกันความมั่นคงเพื่อช่วยยุติสงคราม ของรัสเซีย-ยูเครน แต่เส้นทางสู่สันติภาพยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากสหรัฐและพันธมิตรยังคงเตรียมการว่าการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนจะออกมาในรูปแบบใด 

“เมื่อพูดถึงความมั่นคง (ยุโรป) ปรารถนาส่งคนลงพื้นที่ เรายินดีช่วยพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจเป็น...ทางอากาศ” ทรัมป์ให้สัมภาษณ์

ด้านรัสเซีย หลังการประชุมระหว่างทรัมป์ ผู้นำยุโรป และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ รัสเซียก็ได้โจมตียูเครนทางอากาศครั้งใหญ่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน ทรัมป์เองก็ยอมรับว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย อาจไม่ต้องการทำข้อตกลงเลย

“เราจะได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประธานาธิบดีปูตินในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า” ทรัมป์กล่าว

รอยเตอร์ระบุว่า ความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐต่อยูเครนภายใต้ข้อตกลงสันติภาพจะเป็นอย่างไรยังไม่ชัดเจน ความช่วยเหลือทางอากาศอาจเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น ระบบป้องกันขีปนาวุธ หรือ ใช้เครื่องบินรบสร้างเขตห้ามบิน

นางสาวแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่า การสนับสนุนทางอากาศของสหรัฐ “เป็นตัวเลือกและมีความเป็นไปได้” แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเช่นเดียวกับทรัมป์

“ประธานาธิบดีได้ระบุอย่างชัดเจนว่ากองกำลังสหรัฐจะไม่ประจำการในยูเครน แต่เราสามารถช่วยในการประสานงานและอาจให้การรับประกันความปลอดภัยอื่นๆ แก่พันธมิตรในยุโรปของเราได้” โฆษกกล่าวในการแถลงข่าว

ทุกคนระมัดระวังตัว

แม้ทรัมป์กล่าวในวันจันทร์ว่า ปูตินขอประชุมทวิภาคีกับเซเลนสกี แต่ทำเนียบเครมลินยังไม่ได้รับปากชัดเจน

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในวันอังคารว่า รัฐบาลมอสโกไม่ได้ปฏิเสธการเจรจาสันติภาพยูเครนใดๆ แต่การประชุมของผู้นำ “ต้องเตรียมการอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด”

ปูตินเคยกล่าวว่า รัสเซียจะไม่มีวันยอมให้ทหารจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้ามาในยูเครน หลังการประชุมกับทรัมป์ที่อะแลสกาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ก็ยังไม่มีสัญญาณลดความต้องการดินแดนของยูเครน รวมถึงดินแดนที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมของทหารรัสเซียด้วย

นายนีล เมลวิน ผู้อำนวยการความมั่นคงระหว่างประเทศของกลุ่มคลังสมอง Royal United Services Institute กล่าวว่า รัสเซียอาจลากสงครามขณะพยายามลดแรงกดดันจากสหรัฐด้วยการถ่วงเวลาเจรจาสันติภาพ ซึ่งทั้งยูเครนและพันธมิตรยุโรปกับรัสเซียต่างไม่ต้องการ “ทำให้ทรัมป์เห็นว่าตนเองเป็นอุปสรรคขัดขวางกระบวนการสันติภาพของเขาพวกเขาต่างระมัดระวังทรัมป์มากเพื่อไม่ให้ถูกตำหนิ” เมลวินกล่าวและว่า แถลงการของทรัมป์เรื่องการรับประกันความมั่นคงนั้นก็ช่าง “คลุมเครือจนยากจะถือเป็นเรื่องจริงจัง”