กต. เผย ไทยเตรียมนำผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ 1 ส.ค.

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงข่าว สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันพุธที่ 30 ก.ค. ว่า  นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืน 28 ก.ค. ฝ่ายความมั่นคงของไทยมีหลักฐานชัดเจนว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งในหลายพื้นที่ เช่น การยิงปืนเล็กและลูกระเบิดเข้ามาในเขตแดนไทย การเพิ่มกำลังพลในพื้นที่กัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ นับตั้งแต่พบการละเมิดของกัมพูชา ไทยได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน, สหรัฐอเมริกาและจีนในฐานะสักขีพยานการหยุดยิง และส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติแล้วเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.)

“นับตั้งแต่เมื่อคืนถึงเช้าวันนี้ (30 ก.ค.) ฝ่ายความมั่นคงยังพบการละเมิด กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ต่อการละเมิดดังกล่าวแล้ว เป็นการดำเนินการควบคู่ไปกับการแถลงข่าวประณามฝ่ายกัมพูชาของกองทัพบก และการออกแถลงการณ์โดยกองทัพไทย และวานนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงการดำเนินการของฝ่ายไทยต่อสื่อมวลชนแล้วด้วย” 

เวียดนาม-ญี่ปุ่น สนับสนุนท่าทีไทย

อีกทั้งเมื่อวานนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้พบกันนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ที่มาเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงฯ เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวในฐานะสมาชิกอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง รมว.มาริษก็ได้อธิบายถึงท่าทีไทยและข้อเท็จจริงในพื้นที่

“รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามสนับสนุนท่าทีไทยในการหาข้อยุติอย่างสันติวิธีโดยกลไกทวิภาคี”  นายนิกรเดช

ในวันนี้ นายอิวายะ ทาเกชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นได้โทรศัพท์หา รมว.มาริษ สอบถามในเรื่องเดียวกันซึ่งไทยได้ชี้แจงอย่างที่ได้ชี้แจงไปกับเวียดนาม และญี่ปุ่นได้สนับสนุนท่าทีของไทยในการใช้ช่องทางทวิภาคีหาข้อสรุปด้วยสันติวิธีเช่นกัน 

กัมพูชาขาดเจตนารมณ์หยุดยิง

นายนิกรเดชย้ำจุดยืนของไทยตามแถลงการณ์อีกครั้งว่า ฝ่ายไทยมุ่งมั่น “ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันโดยสันติวิธี ขณะที่เรายังพบการละเมิดของฝ่ายกัมพูชาอยู่บ่อยครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการเคารพพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชาเอง ในการนี้ฝ่ายไทยขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงทุกรูปแบบโดยทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวด้วยความจริงใจและสุจริตใจ”  

ตลอดเวลาที่ผ่านมาประเทศไทย “ไม่เคยละเมิดข้อตกลงแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไทยรักษาคำพูด เรามีความมุ่งมั่น แน่วแน่ในการลงมือปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างจริงจังและจริงใจ ไม่ใช่แค่พูดแล้วไม่ได้ทำจริง นี่คือหลักการที่ไทยยึดถือมาโดยตลอด” 

วันนอร์แจ้ง IPU โต้กัมพูชาแล้ว

ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องการที่กัมพูชาฟ้องสหภาพรัฐสภา (IPU) ว่าไทยใช้อาวุธเคมีและเปิดฉากยิงก่อน นายนิกรเดชกล่าวว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถ้อยแถลงไปแล้วว่าผิดหวังอย่างยิ่ง ประเทศไทยถูกกล่าวหาจากประธานสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชาโดยปราศจากมูลความจริง

ไทยไม่มีอาวุธเคมี

ส่วนที่กล่าวหาไทยใช้อาวุธเคมี กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงและประณามไปแล้วเช่นกันว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไทยเป็นภาคีอนุสัญญาอาวุธเคมี ไม่มีอาวุธเคมีในครอบครอง ไม่เคยใช้ รูปที่กัมพูชานำมาใช้เป็นเฟคนิวส์ ไทยได้ตอบโต้อย่างเป็นทางการโดยประท้วงไปที่กัมพูชาแล้ว ฝ่ายทหารก็ประท้วงเช่นกัน 

“ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนอย่าหลงเชื่อการบิดเบือนข้อมูล” นายนิกรเดชย้ำ 

ว่าที่ทูตสหรัฐแจงวุฒิสภาตามกระบวนการ

คำถามถึงถ้อยแถลงของนายฌอน โอนีล ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ว่าต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจหรือไม่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอธิบายว่า ว่าที่ทูตสหรัฐถูกวุฒิสภาตั้งคำถามในกระบวนการรับรองการดำรงตำแหน่งว่า “หากท่านได้เป็นทูตที่นี่ท่านจะพูดอะไรกับฝ่ายไทย” ซึ่งนายโอนีลได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเทศไทยโดยตรง แล้วฝ่ายกัมพูชาก็นำไปปั่นกระแสให้เหมือนกับว่าว่าที่ทูตโจมตีประเทศไทย

นำทูตทหารลงพื้นที่กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายกลัว

กรณีวันนี้กัมพูชานำทูตทหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่ นายนิกรเดชกล่าวว่า เป็นสิทธิของฝ่ายกัมพูชา ไทยไม่กังวล 

“ถ้าผมเป็นเขาจะกังวลมากกว่า เพราะเขาเป็นคนละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ถ้าผู้สังเกตการณ์ละเอียดจริงก็คงเห็นข้อเท็จจริง” 

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมกำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ในส่วนของไทยเช่นกัน 

“ทำไมเราถึงลงช้า? ง่ายๆ เลยครับเพราะเราคาดไม่ได้ว่าฝ่ายนั้นจะละเมิดอีกเมื่อไหร่ เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของคณะผู้ช่วยทูตทหารที่เราจะพาลงไป” โฆษกยืนยันว่าจะพาลงพื้นที่ภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเป็นวันศุกร์