ถอดรหัส จม.ทรัมป์ ใช้การเมืองภายในเป็นข้ออ้างเก็บภาษีแรง!

ตอนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีประเทศต่างๆ ทั่วโลกในวันปลดปล่อย 2 เม.ย. เขาอ้างว่าประเทศเหล่านั้นทำการค้าเอาเปรียบสหรัฐ
KEY
POINTS
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากบราซิล 50% โดยอ้างเหตุผลทางการเมืองเรื่องการปฏิบัติต่ออดีตประธานาธิบดี
- ทรัมป์เชื่อมโยงการขึ้นภาษีกับการดำเนินคดีต่อนายโบลโซนารู ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "การล่าแม่มด" และวิจารณ์ศาลบราซิลเรื่องการจำกัดโซเชียลมีเดีย
- การขึ้นภาษีครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในสหรัฐ โดยเฉพาะกาแฟและน้ำส้มที่นำเข้าจากบราซิลเป็นหลัก
ตอนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีประเทศต่างๆ ทั่วโลกในวันปลดปล่อย 2 เม.ย. เขาอ้างว่าประเทศเหล่านั้นทำการค้าเอาเปรียบสหรัฐ แต่หากพิจารณาจดหมายแจ้งอัตราภาษีล่าสุดที่ทรัมป์ส่งไปถึงคู่ค้านานาประเทศ น่าจะไม่ใช่เรื่องดุลการค้าอย่างเดียว การเมืองภายในก็มีส่วนด้วย เห็นได้ชัดในกรณีบราซิล
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันพุธ (9 ก.ค.) ตามเวลาวอชิงตัน ประธานาธิบดีทรัมป์ ทำจดหมายแจ้งเรื่องการเก็บภาษีสินค้านำเข้าทุกอย่างจากบราซิล 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.แยกต่างหากจากภาษีรายเซคเตอร์ทุกอย่าง โดยทรัมป์เชื่อมโยงเรื่องภาษีกับการที่บราซิลปฏิบัติกับอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบโซนารู ผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาวางแผนรัฐประหารเพื่อขัดขวางไม่ให้ลูอิซ อินาชิโอ ลูลา ดา ซิลวา ได้เป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2023
จดหมายระบุว่า ภาษีถูกจัดเก็บ “ส่วนหนึ่งเพราะบราซิลทำลายระบบเลือกตั้งเสรีและเสรีภาพในการพูดอันเป็นพื้นฐานของชาวอเมริกันอย่างรุนแรง”
ภาษีใหม่ของทรัมป์ส่งผลให้เงินเรียลของบราซิลร่วงลงต่อเนื่องกว่า 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ราคาหุ้นบริษัทผลิตเครื่องบิน Embraer และบริษัทน้ำมันเปโตรบาส ลดลงด้วย
ด้านประธานาธิบดีลูลาโต้กลับทันทีว่า ภาษีใหม่ก็ต้องเจอมาตรการตอบโต้เช่นกัน โดยตัวเขา รองประธานาธิบดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆประชุมฉุกเฉินในคืนวันพุธเพื่อหารือเรื่องภาษีอัตราใหม่ของสหรัฐ
หลังประชุม ลูลาโพสต์โซเชียลมีเดียยาวเหยียดถึงข้อกล่าวหาของทรัมป์ที่ว่า การค้าระหว่างสองประเทศไม่เป็นธรรมนั้นเป็นการกล่าวอ้างอย่างผิดๆ โดยย้ำว่า สหรัฐต่างหากที่เป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าบราซิล
“อำนาจอธิปไตย ความเคารพ และการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนชาวบราซิลอย่างไม่ลดละคือคุณค่าที่ชี้นำความสัมพันธ์ของเรากับโลก” ลูลาระบุ
สหรัฐนั้นเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดอันดับสองของบราซิลรองจากจีน ภาษีใหม่ถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 10% ที่ทรัมป์เคยประกาศเมื่อเดือน เม.ย.
สัปดาห์นี้ความสัมพันธ์ของผู้นำสองประเทศระอุมาก เมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) ทรัมป์ขู่ว่า จะเก็บภาษีกลุ่มบริกส์ (BRICS) เพิ่มอีก 10% โทษฐานต่อต้านอเมริกา ซึ่งลูลาตอบคำถามผู้สื่อข่าวในการประชุมผู้นำกลุ่มบริกส์ที่นครริโอ เดอ จาเนโรในเรื่องภาษีบริกส์ ระบุ
“โลกเปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ต้องการจักรพรรดิ”
- ‘ล่าแม่มด’โบโซนารู
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับบราซิลหนักข้อขึ้นในวันพุธ เมื่อกระทรวงการต่างประเทศบราซิลเรียกอุปทูตสหรัฐเข้าพบ กรณีออกแถลงการณ์ปกป้องโบโซนารู
ในเวลาเดียวกันนั้นทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานประชุมผู้นำแอฟริกาตะวันตกที่ทำเนียบขาวว่า บราซิล “ไม่ดีกับเรา ไม่ดีเลย” พร้อมเสริมว่า อัตราภาษีตั้งอยู่บน “ข้อเท็จจริงที่สำคัญมากๆ” และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
สถานทูตสหรัฐในกรุงบราซิเลียยืนยันว่า อุปทูตเข้าพบกระทรวงการต่างประเทศบราซิลจริง แต่สถานทูตไม่ได้เผยรายละเอียดการสนทนา
ทรัมป์ไม่ได้สนับสนุนโบโซนารูเพียงรายเดียว เขายังสนับสนุนผู้นำคนอื่นๆ ที่โดนกฎหมายภายในเล่นงาน เช่น มารีน เลอ แปง ผู้นำขวาจัดของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล โดยเรียกคดีที่ผู้นำเหล่านี้โดนเล่นงานว่าเป็นการ “ล่าแม่มด” ทรัมป์ใช้คำที่เคยเรียกตนเองเมื่อมีคดีตามมามากมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
กรณีอดีตผู้นำบราซิล ทรัมป์โพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ว่า โบโซนารูตกเป็นเหยื่อของการ “ล่าแม่มด” ต่อมาในวันพุธสถานทูตสหรัฐในกรุงบาซิเลียออกแถลงการณ์ถึงสื่อท้องถิ่นตอกย้ำความเห็นของทรัมป์
“การดำเนินคดีการเมืองต่อฌาอีร์ โบโซนารู, ครอบครัว และผู้สนับสนุนเขา เป็นเรื่องน่าละอายและไม่เคารพต่อขนบประชาธิปไตยของบราซิล”
โบโซนารูโพสต์โซเชียลมีเดียเช่นกัน แต่ไม่ได้อ้างถึงทรัมป์ บอกเพียงว่าเขา “ถูกดำเนินคดีเพราะยังมีชีวิตอยู่ในจิตสำนึกสาธารณะ แม้ไม่มีอำนาจแต่ชื่อของเขายังเป็นที่จดจำและหวาดกลัวมากที่สุด”
ในจดหมายภาษี ทรัมป์ยังสั่งการให้เจมส์ กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) เริ่มสอบการทำการค้าไม่เป็นธรรมของบราซิลโดยเฉพาะการค้าดิจิทัลของบริษัทสหรัฐ ทั้งยังวิจารณ์คำตัดสินของศาลฎีกาบราซิลที่ทรัมป์เรียกว่าเป็นการปิดกั้นบริษัทโซเชียลมีเดีย
ทั้งนี้ ศาลฎีกาบราซิลถูกพันธมิตรของโบโซนารูวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้วว่า มีคำสั่งให้โซเชียลมีเดียลบคอนเทนท์ของผู้นำขบวนการขวาจัด เดือนก่อนศาลเพิ่งสั่งให้บริษัทโซเชียลมีเดียต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมด้วย
ด้านลูลาโพสต์โซเชียลมีเดียในวันพุธ เมินข้อกล่าวหาล่าแม่มดของทรัมป์ กล่าวว่า คดีของโบโซนารูเป็นเรื่องของศาลที่จะต้องตัดสิน คำขู่ต่างๆ “ไม่สามารถลดทอนความเป็นอิสระแห่งสถาบันของชาติได้”
ไม่เพียงเท่านั้น ลูลายังปกป้องศาลฎีกาและคำพิพากษาของศาล ระบุ
“ต้องไม่สับสนระหว่างเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นกับความก้าวร้าวหรือความรุนแรง”
- กระทบส่งออกอาหาร
ภาษีที่เก็บจากบราซิลจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาอาหารในสหรัฐ ประเทศที่บริโภคกาแฟมากที่สุดในโลก ราวหนึ่งในสามมาจากบราซิล ผู้ปลูกกาแฟรายใหญ่สุดของโลก แต่ละปีกาแฟบราซิลส่งออกไปสหรัฐเกือบ 8 ล้านกระสอบ
น้ำส้มที่ขายในสหรัฐกว่าครึ่งมาจากบราซิล ที่คิดเป็น 80% ของน้ำส้มในตลาดโลก ไม่เพียงเท่านั้น มหาอำนาจเกษตรจากอเมริกาใต้รายนี้ยังขายน้ำตาล เนื้อวัว และเอทานอลให้สหรัฐ รวมถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
“มาตรการเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะบราซิลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ทั้งหมดของสหรัฐ ที่จ้างงานหลายหมื่นอัตราและมีบราซิลเป็นซัพพลายเออร์หลักมาหลายสิบปี” อิเบียพาบา เนตโต กรรมการบริหารซิตรัสบีอาร์ กุล่มอุตสาหกรรมน้ำส้มบราซิลกล่าวกับรอยเตอร์ส







