ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บในอิสราเอลพุ่ง หลังถูกอิหร่านโจมตีรอบใหม่

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 86 คนถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทั้งจากเหตุโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมาและเช้าวันอาทิตย์ ท่ามกลางการโจมตีครั้งใหม่ของอิหร่านต่อประเทศอิสราเอล

กระทรวงสาธารณสุขระบุในรายงานอัปเดตเมื่อวันอาทิตย์ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บปานกลาง 2 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 77 คน และมีอาการวิตกกังวล 4 คน ขณะที่อีก 3 คนยังอยู่ระหว่างการประเมิน

นับตั้งแต่อิหร่านเริ่มโจมตีอิสราเอล ซึ่งเริ่มขึ้นเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารกับอิหร่านเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน มีชาวอิสราเอล 2,835 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยได้รับบาดเจ็บสาหัส 23 คน บาดเจ็บปานกลาง 107 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 2,555 คน และป่วยเพราะวิตกกังวลอีก 119 คน

ดีน เอลสดันน์ โฆษกตำรวจอิสราเอล กล่าวกับซีเอ็นเอ็นในย่านรามัตอาวีฟว่า ขีปนาวุธดังกล่าวโจมตี "อาคารที่พักอาศัยหลายหลังที่อยู่ใกล้เคียงกัน" และเสริมว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาเศษขีปนาวุธและค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง

เอลสดันน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังรอสายจากครอบครัวที่อาจสูญเสียการติดต่อกับคนที่รักซึ่งอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ยังกล่าวอีกว่าจนถึงขณะนี้ทราบแล้วว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยประมาณ 20 คน หลังจากอิหร่านโจมตีย่านที่อยู่อาศัยในกรุงเทลอาวีฟในเช้าวันอาทิตย์ โฆษกตำรวจของเมืองกล่าวกับซีเอ็นเอ็น ณ ที่เกิดเหตุ

โฆษกตำรวจกล่าวว่าย่านที่ถูกโจมตีอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าและโรงเรียน 

• อิสราเอลโจมตีอิหร่านกลับอีกระลอก

ด้านอิสราเอลโจมตีฐานยิงขีปนาวุธและโดรนของอิหร่านที่อาจโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ ได้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

คลื่นการโจมตีใหม่ของอิสราเอลเกิดขึ้นหลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธชุดแรกไปยังอิสราเอลนับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ ประกาศว่าได้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์

นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันวิจัยอิสราเอลกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่าเธอคิดว่าการโจมตีอิหร่านทางภาคตะวันตกเมื่อเช้าวันอาทิตย์ของอิสราเอลมีเป้าหมายที่ "แท่นยิงที่เพิ่งโจมตีเรา  และยังเล็งเป้าไปที่ขีปนาวุธขีดความสามารถในการโจมตีระยะใกล้กว่าที่อาจโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ และพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคด้วย"

“สิ่งที่อิหร่านยิงไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เป็นการโจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรงมาก ซึ่งเราสกัดกั้นได้บางส่วนและบางส่วนไม่สามารถสกัดกั้นได้” มิริ ไอซิน จากสถาบันต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศกล่าวกับซีเอ็นเอ็น

“สิ่งที่เรากำลังทำคือไล่ล่าแท่นยิงเหล่านั้น แท่นยิงที่โจมตีเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เพราะคุณต้องการโจมตีแท่นยิงเหล่านั้นที่ยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล”

กองทัพอิสราเอลระบุว่าการโจมตีทางอากาศในอิหร่านตะวันตกเมื่อเช้าวันอาทิตย์ได้ทำลายเครื่องบินขับไล่ F-5 จำนวน 2 ลำของกองกำลังติดอาวุธอิหร่านที่สนามบินเดซฟุลในจังหวัดคูเซสถาน

“นอกจากนี้… แท่นยิง 8 เครื่องก็ถูกทำลาย รวมถึงแท่นยิง 6 แท่นที่พร้อมจะยิงขีปนาวุธไปยังดินแดนของอิสราเอลทันที” กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลกล่าว

• อิหร่านจำเป็นต้องตอบโต้

“เราต้องตอบโต้” รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าว

นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าวต่อไปว่าเขาไม่ทราบว่า “มีพื้นที่เหลือสำหรับการทูตอีกมากเพียงใด” หลังจากที่สหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

“พวกเขาก้าวข้ามเส้นแดงที่สำคัญมากด้วยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์… เราต้องตอบโต้โดยยึดตามสิทธิอันชอบธรรมของเราในการป้องกันตนเอง” อารักชีกล่าว

นักการทูตระดับสูงของอิหร่านคนนี้กล่าวว่าเขาได้ติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศหลายคนในภูมิภาคนี้และ "เกือบทั้งหมดมีความกังวลอย่างมาก" และสนใจที่จะมีบทบาทในการหยุดยั้ง "การรุกรานของอิสราเอล"

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านยังกล่าวว่า สหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะ "ทำลาย" ช่องทางการทูต หลังจากการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อเช้านี้

"สัปดาห์ที่แล้ว เราอยู่ระหว่างการเจรจากับสหรัฐฯ เมื่ออิสราเอลตัดสินใจทำลายการทูตดังกล่าว สัปดาห์นี้ เราได้เจรจากับกลุ่มรัฐมนตรียุโรป  เมื่อสหรัฐฯ ตัดสินใจทำลายการทูตดังกล่าว" อารักชี โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย X

"สำหรับอังกฤษและผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป อิหร่านคือผู้ต้อง "กลับ" เข้าสู่โต๊ะเจรจา แต่อิหร่านจะกลับไปสู่สิ่งที่ไม่เคยจากไปได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงการทำลายล้าง" เขากล่าว

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านประณามสหรัฐที่ “ก่อสงคราม” ด้วยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

“สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านประณามอย่างรุนแรงถึงการรุกรานทางทหารของสหรัฐต่อโรงงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพของอิหร่าน การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวในการแถลงข่าวที่อิสตันบูลในบ่ายวันอาทิตย์

เขากล่าวว่า “รัฐบาลที่ก่อสงครามและไม่ยึดถือกฎหมายในวอชิงตันต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวและต่อผลอันตรายที่ตามมาและผลกระทบในวงกว้างจากการรุกราน”