'รูบิโอ' หารือชาติพันธมิตร เห็นพ้อง 'อิหร่าน' ไม่ควรครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้พบกับ เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) และได้โทรศัพท์พูดคุยแยกกับ เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย, ฌ็อง-โนเอล บาร์โร รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส และอันโตนิโอ ทาจานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี เพื่อหารือเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐ และอิหร่านคู่อริในภูมิภาค

กระทรวงการต่างประเทศแถลงว่า รูบิโอและรัฐมนตรีต่างประเทศจากชาติพันธมิตรเห็นพ้องกันว่า “อิหร่านไม่สามารถพัฒนาหรือครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้”

แลมมี กล่าวเสริมในโพสต์ในแพลตฟอร์ม X ว่า สถานการณ์ตะวันออกกลางยังคงตกอยู่ในอันตราย และมีโอกาสภายในสองสัปดาห์เพื่อบรรลุทางออกทางการทูต

ทำไมเรื่องนี้มีความสำคัญ

สงครามทางอากาศระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้สร้างความกังวลในภูมิภาคมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วนับตั้งแต่อิสราเอลบุกกาซาในเดือน ต.ค. 2566

ขณะที่ทำเนียบขาวเผยวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจว่าสหรัฐจะเข้าร่วมสงครามนี้หรือไม่ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า และว่าทรัมป์จะเข้าร่วมประชุมความมั่นคงแห่งชาติในช่วงเช้าวันศุกร์ (19 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ

ตอนนี้ทรัมป์ทำให้โลกต้องคาดเดาเกี่ยวกับแผนการของเขา โดยได้เปลี่ยนจากการเสนอวิธีแก้ปัญหาทางการทูตอย่างรวดเร็ว ไปสู่การแนะนำว่าวอชิงตันอาจเข้าร่วมการสู้รบในฝ่ายของอิสราเอล

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพยุโรป มีกำหนดประชุมในเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านในวันศุกร์ เพื่อพยายามลดระดับความขัดแย้ง

ทั้งนี้ อิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีอิหร่านเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้เตกะรานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่อิหร่านบอกว่าโครงการนิวเคลียร์มีจุดประสงค์นำไปใช้ในทางสันติเท่านั้น

อ้างอิง: Reuters