กัมพูชาเตรียมความพร้อมรับแรงงานอพยพหลังยื่น ICJ แก้ข้อพิพาทไทย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) ระบุ 

“กัมพูชายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) เพื่อหาทางออกให้กับข้อพิพาทชายแดนในสี่พื้นที่”

“กัมพูชาเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศและสันติภาพ”

“กัมพูชาต้องการเพียงความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดและปักปันเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น เพื่อที่คนรุ่นหลังของเราจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป” 

โพสต์ในภาษากัมพูชาของนายกฯ ฮุน มาเนต กล่าวด้วยว่า เมื่อ 63 ปีที่แล้วในวันที่ 15 มิ.ย. 1962 เป็นวันประวัติศาสตร์เมื่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ไอซีเจ)ตัดสินว่ากัมพูชาชนะประเด็นปราสาทพระวิหาร

แม้ว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างกัน 63 ปี แต่ก็เป็นความจริงที่จิตวิญญาณและวัตถุประสงค์เดียวกัน กัมพูชาเลือกที่จะตั้งถิ่นฐานอย่างสงบสุขบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศผ่านกลไกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ  สําหรับการแก้ไขปัญหาชายแดนในพื้นที่ที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ของความขัดแย้งติดอาวุธ ซึ่งกลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด เช่นเดียวกับในเขตปราสาทพระวิหาร เมื่อ 60 ปีก่อน และกรณีข้อพิพาทพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย

 ขอความกรุณา เพื่อนร่วมชาติทุกท่าน เชื่อมั่นในรัฐบาลในการทํางานนี้ด้วยความเต็มใจและรับผิดชอบอย่างยิ่ง เพื่อปกป้องความมั่นคงของแผ่นดิน และประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนชาวกัมพูชา

ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วโมง เฟซบุ๊ก Samdech Thipadei Hun Manet, Prime Minister of Cambodia โพสต์ข้อความเป็นภาษากัมพูชาพร้อมภาพปราสาทพระวิหาร แปลอัตโนมัติเป็นภาษาอังฤษได้ว่า

ฉลองครบรอบ 63 ปี คำพิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) ที่พบว่า ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา

ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ฮุน มาเนต กล่าวว่า รัฐบาลของตนกำลังรอคำตอบจากไทยว่าจะร่วมกันยื่นข้อพิพาทสู่ไอซีเจหรือไม่

ฮุนเซนวอนแรงงานกัมพูชากลับบ้าน

ด้านเว็บไซต์แขมร์ไทม์สรายงานว่า เมื่อบ่ายวันเสาร์ (14 มิ.ย.) สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กทางการเรียกร้องให้แรงงานกัมพูชากลับบ้านก่อนถูกทางการไทยขับไล่หรือปฏิบัติไม่ดี

“ผมพูดแบบนี้เพราะผมเข้าใจดีว่าข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทยจะยืดเยื้อไปอีกนาน โดยเฉพาะเมื่อกัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) เมื่อถึงเวลานั้น คนไทยผู้มีแนวคิดสุดโต่งและกลุ่มต่างๆ ในกองทัพไทยอาจพยายามทำร้ายพวกคุณ นี่เป็นความเสี่ยงที่มีอยู่จริงและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” ฮุนเซนเตือนพร้อมให้คำมั่นว่า รัฐบาลยินดีต้อนรับชาวกัมพูชาทุกคนกลับบ้านไม่ว่าใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยมานานแค่ไหน หรือจะมีเอกสารทางฝ่ายกัมพูชาถูกต้องหรือไม่ก็ตาม

ฮุนเซนอ้างถึงข้อความของนายกฯ ฮุน มาเนตที่ว่า รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาเตรียมพร้อมรับมือหากมีการอพยพครั้งใหญ่ของแรงงานกัมพูชาออกจากประเทศไทย

ข้อความจากนายกฯ ฮุน มาเนต ระบุว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกรมกองทหาร รวมถึงฝ่ายบริหารเจ็ดจังหวัดชายแดนไทย พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการข้ามแดน จัดหาที่พักชั่วคราวและอาหารให้กับแรงงานที่ข้ามเข้ามาบริเวณพื้นที่ชายแดน

กระทรวงกลาโหม กองทัพ และองค์การบริหารพนมเปญกำลังเตรียมยานพาหนะนำแรงงานจากชายแดนกลับบ้านเกิด ด้านกระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษาพร้อมช่วยเหลือให้แรงงานหางานทำในประเทศได้ ปัจจุบันกัมพูชายังขาดแคลนแรงงานอีกกว่า 70,000 คน

โฆษกกระทรวงแรงงานกัมพูชา เผยว่า จ.กัมปงสะปือมีตำแหน่งงานว่าง58,726 อัตรา, จ.กันดาล 8,532 อัตรา, จ.กัมปงจาม 12,371 อัตรา, จ.เกาะกง 7,700 อัตรา, จ.ตาแก้ว 14,000 อัตรา , จ.กระแจะ 6,276 อัตรา, จ.สวายเรียง 26,044 อัตรา, กรุงพนมเปญ16,846 อัตรา

โฆษกฯ ย้ำว่า กระทรวงแรงงานและฝึกอบรมอาชีวศึกษาพร้อมช่วยหางานและพร้อมให้การอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาฟรีและเงินอุดหนุนแก่แรงงานจากครอบครัวยากจนที่มีความรับผิดชอบสูง

กระทรวงเศรษฐกิจเตรียมช่วยเหลือ

นอกจากนี้กระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน พร้อมด้วยกระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้องอื่นๆ กำลังเตรียมการสนับสนุนหลอมรวมแรงงานเหล่านี้เข้ากับสังคม ผ่านมาตรการทางเศรษฐกิจและสังคมอันหลากหลายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

ในเวลาเดียวกันนายกฯ ฮุน มาเนตเรียกร้องให้สมาคมธนาคาร และสมาคมสถาบันการเงินขนาดเล็ก พิจารณามาตรการบรรเทาภาระการเงินของแรงงานกลับบ้าน โดยเฉพาะหนี้สินที่ยังมีอยู่ภายใต้กรอบเวลาอันเหมาะสมตามขีดความสามารถของแต่ละสถาบัน

“เมื่อประเทศและประชาชนกัมพูชาประสบปัญหา จิตวิญญาณความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติและการช่วยเหลือกัน คือความแข็งแกร่งแห่งชาติกัมพูชาของเรา” ฮุน มาเนตย้ำ

พนมเปญเตรียมรถบัส 400 คันรอรับแรงงาน

กวง สเรง ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญสมาชิกคณะกรรมาธิการกลางพรรคประชาชนกัมพูชา และประธานคณะกรรมการพรรคสาขาพนมเปญประกาศว่า ทางการเตรียมรถบัสไว้กว่า 400 คัน เพื่อขนส่งชาวกัมพูชาจากชายแดนไทย หากสถานการณ์ระหว่างสองประเทศบานปลาย