เปิดร่างจดหมายยูเอสทีอาร์! สหรัฐจี้นานาประเทศเร่งเสนอดีลดีสุดภายในวันพุธ

เปิดร่างจดหมายยูเอสทีอาร์! สหรัฐจี้นานาประเทศเร่งเสนอดีลดีสุดภายในวันพุธ

รัฐบาลทรัมป์ต้องการให้นานาประเทศยื่นข้อเสนอเจรจาการค้าดีที่สุดภายในวันพุธ ขณะที่ทางการกำลังเร่งเจรจากับคู่ค้าหลายรายก่อนเส้นตายมาถึงในอีกเพียงห้าสัปดาห์เท่านั้น

KEY

POINTS

  • เอกสารชี้ให้เห็นถึงความเร่งด่วนภายในรัฐบาลที่จะต้องบรรลุข้อตกลงให้ได้เพราะเส้นตายใกล้เข้ามาทุกขณะ
  • เอาเข้าจริงสหรัฐบรรลุข้อตกลงกับคู่ค้าใหญ่ได้เพียงรายเดียวคืออังกฤษแต่ก็เป็นแค่เค้าโครงเพื่อการเจรจาต่อเนื่องไปสู่ข้อตกลงสุดท้ายเท่านั้น
  • ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ประเทศใดบ้างจะได้รับจดหมายฉบับดังกล่าว แต่จดหมายพุ่งเป้าไปยังประเทศที่กำลังเจรจากับสหรัฐ

รัฐบาลทรัมป์ต้องการให้นานาประเทศยื่นข้อเสนอเจรจาการค้าดีที่สุดภายในวันพุธ ขณะที่ทางการกำลังเร่งเจรจากับคู่ค้าหลายรายก่อนเส้นตายมาถึงในอีกเพียงห้าสัปดาห์เท่านั้น

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างร่างจดหมายเจรจากับคู่ค้าฉบับหนึ่งจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) เผยให้เห็นวิธีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนปิดดีลการค้ากับหลายสิบประเทศเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ที่เขาระงับภาษี “วันปลดแอก” เป็นเวลา 90 วันถึงวันที่ 8 ก.ค. หลังตลาดหุ้น พันธบัตร และสกุลเงินผันผวนหนักจากการเก็บภาษีหว่านแห

เอกสารชี้ให้เห็นถึงความเร่งด่วนภายในรัฐบาลที่จะต้องบรรลุข้อตกลงให้ได้เพราะเส้นตายใกล้เข้ามาทุกขณะ แม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอย่างเควิน แฮสเส็ต ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว กล่าวเสมอมาว่าข้อตกลงดีๆ กับหลายประเทศใกล้สำเร็จลุล่วงแล้ว แต่เอาเข้าจริงสหรัฐบรรลุข้อตกลงกับคู่ค้าใหญ่ได้เพียงรายเดียวคืออังกฤษ ซึ่งก็เป็นแค่เค้าโครงเพื่อการเจรจาต่อเนื่องไปสู่ข้อตกลงสุดท้ายเท่านั้น

ตามร่างจดหมายของยูเอสทีอาร์ สหรัฐกำลังขอให้ประเทศต่างๆ ทำข้อเสนอที่ดีที่สุดในด้านสำคัญจำนวนหนึ่ง เช่น ภาษีและการเสนอโควตาซื้อสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมของสหรัฐ และแผนการแก้ไขอุปสรรคการค้าที่มิใช่ภาษี (เอ็นทีบี)

เรื่องอื่นที่ขอในจดหมาย ได้แก่ คำมั่นต่อการค้าดิจิทัลและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และคำมั่นเฉพาะประเทศ โดยสหรัฐจะประเมินการตอบรับของคู่ค้าภายในไม่กี่วัน และจะยื่น “ทางลงที่เป็นไปได้” ซึ่งนั่นอาจรวมถึงอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ประเทศใดบ้างจะได้รับจดหมายฉบับดังกล่าว แต่จดหมายพุ่งเป้าไปยังประเทศที่กำลังเจรจากับสหรัฐ เช่น มีการประชุมหรือแลกเปลี่ยนเอกสารระหว่างกัน ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันกำลังเจรจากับสหภาพยุโรป (อียู)ญี่ปุ่น เวียดนาม อินเดีย และอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ยูเอสทีอาร์รายหนึ่งเผยว่า การเจรจาการค้ากำลังดำเนินอยู่

“การเจรจาต่อรองที่ดีกับคู่ค้าสำคัญหลายรายดำเนินไปต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะทบทวนความคืบหน้าและประเมินว่าจะทำอะไรต่อไป” เจ้าหน้าที่กล่าว

  • เดินหน้าแม้คดีคาศาล

ทิฟฟานี สมิธ รองประธานฝ่ายนโยบายการค้าโลก สภาการค้าต่างประเทศแห่งชาติ ยินดีกับท่าทีของยูเอสทีอาร์

“เรามีความหวังกับการที่ยูเอสทีอาร์กำลังเดินหน้าการเจรจาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้” สมิธกล่าวกับรอยเตอร์ก่อนเสริมว่า ข้อตกลงการค้าที่ยกเลิกภาษีสำหรับบริษัทสหรัฐในต่างแดนและลดภาษีของสหรัฐจะ “เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายหากนำไปปฏิบัติแล้วทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าคาดการณ์ได้และมีเสถียรภาพเหมือนเดิม”

รอยเตอร์สระบุว่า นโยบายภาษีอันยิ่งใหญ่และบ่อยครั้งบ้าคลั่งของทรัมป์คือเสาหลักของนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ที่เขาต้องการกำหนดความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐเสียใหม่, ลดการขาดดุลการค้า และปกป้องอุตสาหกรรมอเมริกัน

สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันเองก็อาศัยภาษีเพิ่มรายได้รัฐบาล ชดเชยต้นทุนการออกกฎหมายลดภาษีที่ขณะนี้กำลังอยู่ในสภาด้วย

นโยบายภาษีทรัมป์ทำให้นักลงทุนเผชิญความผันผวนขึ้นๆ ลงๆ ราวกับนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ในเดือน พ.ค. หุ้นสหรัฐขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2023 แต่นั่นเกิดขึ้นหลังจากดัชนีตลาดหุ้นโลกร่วงหนักหลังทรัมป์ระดมประกาศเรื่องภาษีตลอดเดือน ก.พ., มี.ค. และต้นเดือน เม.ย.

บ่ายวันจันทร์ (2 มิ.ย.) หุ้นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังทรัมป์ประกาศกะทันหันเมื่อวันศุกร์ (30 พ.ค.) ที่เมืองพิตส์เบิร์กว่าจะขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าสองเท่า

ขณะเดียวกัน การเก็บภาษีของทรัมป์ก็มีข้อท้าทายด้านกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ศาลการค้าระหว่างประเทศพิพากษาว่า ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเก็บภาษีตามกฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ ทั้งการเก็บภาษี “วันปลดแอก” และการเก็บภาษีสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีนก่อนหน้านั้น โดยทรัมป์อ้างว่าทั้งสามประเทศเอื้อให้เฟนทานิลทะลักเข้าสหรัฐ

ไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมาศาลอุทธรณ์สั่งระงับคำพิพากษานั้นชั่วคราว คาดว่า ภาษีนี้จะยังคงบังคับใช้ต่อไประหว่างที่คดีดำเนินอยู่

ร่างจดหมายของยูเอสทีอาร์เตือนบรรดาคู่ค้าด้วยว่า อย่าเพิ่งไปเชื่อว่า ภาษีจะถูกศาลสั่งยกเลิกได้

“แม้ยังมีคดีความเรื่องการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้อยู่ในศาล ประธานาธิบดีตั้งใจให้แผนการภาษีนี้เดินหน้าโดยใช้อำนาจทางกฎหมายอื่นถ้าจำเป็น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องหารือกันต่อไปในเรื่องนี้” ร่างจดหมายระบุ