เบสเซนต์เผย เจรจาสหรัฐ-จีนอยู่ในจุด ‘ชะงักงัน’ แนะทรัมป์-สี จิ้นผิงโทรคุยกันเอง เพื่อคลี่คลายข้อพิพาท

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “สกอตต์ เบสเซนต์” รัฐมนตรีคลังสหรัฐเผยว่า การเจรจาการค้ากับจีน “ชะงักไปเล็กน้อย” และอาจจำเป็นต้องมีการโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เพื่อให้สองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกสามารถบรรลุข้อตกลงได้

“ผมคงต้องบอกว่า การเจรจาอยู่ในภาวะชะงักเล็กน้อย” เบสเซนต์กล่าวถึงการเจรจาในการให้สัมภาษณ์กับสถานี Fox News เมื่อวันพฤหัสบดี

เบสเซนต์ ซึ่งเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์เมื่อต้นเดือนนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่จีน โดยการหารือดังกล่าว ทำให้ทั้งสองฝ่ายถอยห่างจากการเก็บภาษีนำเข้าที่สูงกว่า 100% ต่อสินค้าของกันและกัน โดยเขาเชื่อว่า จะมีการเจรจาเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่จีน “ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” อย่างไรก็ตาม เบสเซนต์เห็นว่า การมีส่วนร่วมโดยตรงของผู้นำทั้งสองประเทศเป็นสิ่งจำเป็น

“ผมคิดว่า เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของการเจรจา และความซับซ้อนที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้จำเป็นต้องให้ผู้นำของทั้งสองประเทศเข้ามาเจรจากันโดยตรง” เบสเซนต์กล่าว

ครั้งสุดท้ายที่ผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันคือ เมื่อเดือนมกราคม ก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์เพียงไม่กี่วัน โดยผู้นำสหรัฐระบุว่า เขาอาจจะพูดคุยกับผู้นำจีน อาจจะช่วงสิ้นสัปดาห์ หลังจากการเจรจาที่เจนีวา ซึ่งสิ้นสุดลงในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม แต่การโทรศัพท์ดังกล่าวก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

ในทางกลับกัน ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศกลับทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
รัฐบาลของทรัมป์ประกาศว่า จะเริ่มเพิกถอนวีซ่านักศึกษาจีนบางส่วน ซึ่งทางปักกิ่งได้ประณามว่าเป็นการ “เลือกปฏิบัติ”

วอชิงตันยังได้ออกข้อจำกัดใหม่ในการขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิป ยังรวมถึงชิ้นส่วนบางอย่างของเครื่องยนต์เจ็ตให้กับจีน ซึ่งเกิดขึ้นไม่นาน หลังจากที่สหรัฐพยายามสกัดกั้นไม่ให้บริษัท Huawei Technologies ขายชิป AI ขั้นสูงในทุกพื้นที่ทั่วโลก ส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง

เบสเซนต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า ข้อตกลงการค้าฉบับใหญ่สองสามฉบับใกล้จะบรรลุผลแล้ว โดยในหมู่การเจรจาที่มีความคืบหน้ามากที่สุด เขาวางแผนจะพบกับคณะผู้แทนจากญี่ปุ่นในวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน

การเจรจาดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางความผันผวนจากคำตัดสินของศาลหลายคดี ซึ่งมุ่งเน้นไปที่คำถามว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีสิทธิที่จะใช้นโยบายภาษีตอบโต้หรือไม่

ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐได้ตัดสินเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ภาษีส่วนใหญ่ที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเก็บนับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาวนั้น “ขัดต่อกฎหมาย” และได้มีคำสั่งให้ยกเลิกภาษีเหล่านั้น 

อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งระงับคำตัดสินดังกล่าวในวันพฤหัสบดี ทำให้คำสั่งเก็บภาษีของทรัมป์ยังคงมีผลบังคับใช้ในขณะนี้ ในระหว่างนี้ ฝ่ายบริหารของเขายื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินที่ไม่เป็นผลในเบื้องต้นนั้น

เบสเซนต์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาข้อตกลงการค้าของสหรัฐกล่าวว่า เขาไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีจากประเทศอื่น ๆ ในการเจรจาการค้า หลังคำตัดสินของศาลสหรัฐออกมา

“เราไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นในหมู่คู่ค้าของเราเลย” เบสเซนต์กล่าว “พวกเขาเข้ามาเจรจากับเราด้วยความจริงใจ และพยายามจะสรุปข้อตกลงให้ได้ ก่อนที่ช่วงพัก 90 วันจะสิ้นสุดลง เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในท่าทีของพวกเขาในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมาเลย”

อ้างอิง: bloomberg