สหรัฐเตือน! การใช้ชิป AI ของ Huawei ‘ไม่ว่าที่ใดก็ตาม’ ถือเป็นการละเมิดกฎ

สหรัฐ ‘ยกระดับ’ สกัดกั้นเทคโนโลยี AI ของจีน โดยระบุใหม่ว่า การใช้ชิป AI “Ascend” ของ Huawei ไม่ว่าที่ใดในโลก จะถือเป็นการละเมิดกฎหมายส่งออก พร้อมเตือนถึงผลกระทบจากการใช้ชิปสหรัฐ ฝึกโมเดล AI จีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้ออกแนวทางใหม่ที่ระบุว่า การใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) “Ascend” ของบริษัท Huawei Technologies “ไม่ว่าที่ใดในโลก” ถือเป็นการละเมิดระเบียบควบคุมการส่งออกของรัฐบาล ซึ่งเป็นการยกระดับของสหรัฐ ในการสกัดกั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน
สำนักอุตสาหกรรม และความมั่นคงของกระทรวงได้แถลงเมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.68) ว่า หน่วยงานยังมีแผนจะออกคำเตือนต่อสาธารณชนเกี่ยวกับ “ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการอนุญาตให้ชิป AI ของสหรัฐ ถูกนำไปใช้ในการฝึกและใช้งานโมเดล AI ของจีน” โดยการฝึกโมเดล AI หมายถึงกระบวนการป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลเข้าไป เพื่อให้ระบบเรียนรู้และจดจำรูปแบบต่างๆ ขณะที่ การใช้งาน คือ ขั้นตอนที่โมเดลนำความรู้ที่ได้จากการฝึกไปใช้ในการปฏิบัติงานต่างๆ
แนวทางของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐนี้ มีแนวโน้มยิ่งทำให้บริษัท Huawei ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซินเจิ้น ประสบความยากลำบากมากขึ้นในการเดินหน้าพัฒนาชิปที่ทรงพลังยิ่งขึ้นสำหรับปัญญาประดิษฐ์ และสมาร์ตโฟน โดยก่อนหน้านี้ก็เผชิญอุปสรรคสำคัญอยู่แล้วจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา Huawei กำลังอยู่ในขั้นตอนออกแบบหน่วยประมวลผล Ascend รุ่นใหม่ถึงสองรุ่น ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่งกับชิปเร่งความเร็ว AI ของ Nvidia ที่ครองตลาดอยู่ในปัจจุบัน โดยชิปเหล่านี้มีสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมาหลายปี อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดที่นำโดยสหรัฐ ได้ส่งผลให้พันธมิตรผู้ผลิตชิปของ Huawei ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดได้
นอกจากนี้ สำนักอุตสาหกรรมและความมั่นคงได้ออกคำแนะนำใหม่ดังกล่าว พร้อมกับประกาศยกเลิกข้อบังคับในยุคของรัฐบาลไบเดนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งใช้ในการพัฒนา AI อย่างเป็นทางการ โดยข้อบังคับเหล่านั้นเคยเผชิญเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากพันธมิตรของสหรัฐ และบริษัทต่างๆ รวมถึง Nvidia และ Oracle
กระทรวงพาณิชย์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า กฎระเบียบในยุคไบเดน “อาจบ่อนทำลายความสัมพันธ์ทางการทูตของสหรัฐ กับประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศ โดยลดสถานะของพวกเขาลงมาเป็นประเทศชั้นรอง”
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ระบุว่า จะตีพิมพ์ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อยกเลิกข้อบังคับดังกล่าว และจะออกข้อบังคับใหม่ในอนาคต โดยรัฐบาลทรัมป์กำลังจัดทำแนวทางของตนเองขึ้นมาใหม่ และอาจเปลี่ยนไปใช้วิธีเจรจาข้อตกลงรายประเทศ กับแต่ละชาติ
กระทรวงพาณิชย์ยังระบุในแถลงการณ์ว่า ไม่ว่าแนวทางใหม่นั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะเป็น “ยุทธศาสตร์ที่กล้าหาญ และครอบคลุม เพื่อแบ่งปันเทคโนโลยี AI ของอเมริกากับประเทศพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีดังกล่าวตกไปอยู่ในมือของศัตรูเรา”
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







