ทรัมป์ปลื้มเจรจาสหรัฐ-จีน ชมทั้งสองฝ่าย ‘รีเซ็ตทุกอย่างใหม่หมด!’

“วันนี้ประชุมกับจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ดีมากๆ หารือกันหลายเรื่อง เห็นชอบกันหลายเรื่อง” ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ทรูธโซเชียลถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันเสาร์ (10 พ.ค.) พร้อมเสริม

“เราต้องการเห็นสิ่งดีๆ สำหรับทั้งจีนและสหรัฐ เปิดตลาดจีนให้กับธุรกิจอเมริกัน ก้าวหน้ามาก!!!” ทรัมป์กล่าวเสริมโดยไม่ได้เผยถึงความก้าวหน้านั้น

แหล่งข่าววงในรายหนึ่งเผยกับรอยเตอร์สว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐและจีนเสร็จสิ้นการประชุมวันแรกที่เจนีวา เป้าหมายต้องการปลดชนวนสงครามการค้าที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก โดยมีแผนเจรจากันต่อในวันอาทิตย์ (11 พ.ค.)

รองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟิง คุยกันราวแปดชั่วโมงกับนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ในการประชุมแบบพบหน้าค่าตากันครั้งแรกนับตั้งแต่สองเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกเก็บภาษีกันเกิน 100%

การประชุมมีขึ้นที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำสหประชาชาติ สิ้นสุดลงราว 20.00 น. วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 1.00 น. วันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ตามเวลาประเทศไทยหลังประชุมไม่มีใครแถลงถึงผลการหารือหรือส่งสัญญาณความก้าวหน้าใดๆ อย่างเฉพาะเจาะจง 

นายเบสเซนต์ นายกรีเออร์ และนายเหอ ประชุมกันหลังจากสองประเทศตึงเครียดกันมาหลายสัปดาห์ จากภาษีของทรัมป์เมื่อเดือน ก.พ. รัฐบาลปักกิ่งจึงเก็บภาษีตอบโต้ ส่งผลให้การค้าสองฝ่ายมูลค่าเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีหยุดชะงักไปโดยปริยาย

• บรรยากาศเป็นใจ

สถานที่พูดคุยในทำเลการทูตของสวิตเซอร์แลนด์ไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน ตอนออกจากโรงแรมมายังสถานที่ประชุม เจ้าหน้าที่สหรัฐรวมถึงนายเบสเซนต์และนายกรีเออร์ต่างยิ้มแย้ม ผูกเน็คไทสีแดงและติดธงชาติอเมริกาไว้ที่ปกเสื้อ นายเบสเซนต์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับนักข่าว

ในเวลาเดียวกัน ณ โรงแรมแห่งหนึ่งริมทะเลสาบเจนีวาซึ่งเป็นที่พักของคณะตัวแทนจีน และกำลังจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอน รถตู้เมอร์เซเดสติดฟิล์มดำแล่นออกไป ขณะที่นักวิ่งกำลังเตรียมตัวลงแข่งขันท่ามกลางแสงแดดสดใส

 หลังรับประทานอาหารกลางวันมีคนเห็นตัวแทนทั้งสองฝ่ายกลับเข้ามายังทำเนียบทูตประจำยูเอ็น ที่มีสวนส่วนตัวมองออกไปเห็นทะเลสาบเจนีวาย่านชานเมืองโคโลญญีอันเขียวขจี

• เป้าหมายสองประเทศ

รัฐบาลวอชิงตันต้องการลดการขาดดุลการค้า 2.95 แสนล้านดอลลาร์กับจีน และชักจูงจีนให้ละทิ้งสิ่งที่สหรัฐเรียกว่าตัวแบบเศรษฐกิจแบบพาณิชย์นิยม กล่าวคือใช้นโยบายเอื้อต่อการส่งออกของตนเอง และสหรัฐต้องการให้จีนซื้อสินค้าจากประเทศอื่นมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นต้องมีการปฏิรูปภายในประเทศจีนซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวทางการเมือง

ฝ่ายปักกิ่งโต้ต่อต้านสิ่งที่ตนเองมองว่าเป็นการแทรกแซงจากภายนอก ปักกิ่งต้องการให้วอชิงตันลดภาษี บอกให้ชัดว่าอยากให้จีนซื้อสินค้าใดเพิ่ม และปฏิบัติกับจีนอย่างเท่าเทียมในเวทีโลก

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนเผยแพร่บททัศนวิจารณ์เมื่อวันเสาร์ว่า “การใช้ภาษีอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังของสหรัฐทำให้ระเบียบเศรษฐกิจโลกไร้เสถียรภาพ” ทว่า การเจรจาครั้งนี้แสดงถึง “ขั้นตอนจำเป็นและสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาความไม่ลงรอยกัน ป้องกันเหตุการณ์บานปลาย”

“ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นการเจรจาหรือการเผชิญหน้า สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ความมุ่งมั่นปกป้องผลประโยชน์ในการพัฒนาของจีนมิอาจสั่นคลอนได้ จีนยังมีท่าทีรักษาระเบียบเศรษฐกิจและการค้าโลกอย่างไม่เสื่อมคลาย” ซินหัวระบุ