ทรัมป์ลั่นไม่ลดภาษีให้จีนเพื่อเริ่มต้นเจรจา

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงาน ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งสอบถามประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันพุธ (7 พ.ค.68) ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาจะลดภาษี 145% ที่เก็บกับสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อเจรจากับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกหรือไม่ ทรัมป์ตอบสั้นๆ “ ไม่ ”

ความเห็นของประธานาธิบดีเกิดขึ้นในพิธีสาบานตนของนายเดวิด เพอร์ดิว เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีน และเกิดขึ้นก่อนที่นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) จะไปเจรจาการค้ากับรองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟิงของจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้

ท่าทีของทรัมป์เน้นย้ำถึงความแตกต่างอย่างมากระหว่างสหรัฐ และจีน ในเรื่องการค้า และเส้นทางอันยากลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญเพื่อบรรลุข้อตกลงลดภาษี แต่นั่นก็คือ ความจริงหลังจากการประกาศการเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่ายเมื่อวันอังคาร (6 พ.ค.68) ที่ผ่านมา สร้างความหวังว่าความขัดแย้งเรื่องภาษีสินค้านำเข้าจะได้รับการแก้ไขก่อนที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

ประธานาธิบดีปฏิเสธว่า สหรัฐเริ่มต้นเจรจากับจีนก่อน คนที่อ้างว่า การเจรจาเกิดขึ้นตามคำเรียกร้องของวอชิงตัน “ควรกลับไปศึกษาเอกสารของตัวเอง”

สัปดาห์ก่อนกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐติดต่อมาอยากหารือเรื่องภาษี

“เมื่อเร็วๆ นี้สหรัฐส่งข้อความมายังจีนผ่านภาคีที่เกี่ยวข้อง หวังจะเริ่มคุยกับจีน” กระทรวงระบุ

ในวันพุธ ทรัมป์กล่าวอย่างที่เคยกล่าวมาว่า สหรัฐค้าขาย “สูญเสียเงินปีละล้านล้านดอลลาร์” ให้จีน และ “ตอนนี้เราไม่ได้สูญเสียอะไรเลย” เห็นได้ชัดว่าหมายถึงการขาดดุลการค้ากับปักกิ่ง

ช่วงไม่กี่วันนี้ทรัมป์กล่าวว่า เขายินดีลดภาษีให้จีนในบางระดับ แต่ยืนยันว่า ผู้บริโภคสหรัฐยินดีแบกรับราคาที่สูงขึ้น และทางเลือกน้อยลง เพื่อเปิดทางให้ดึงการผลิตกลับสู่ประเทศได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักชี้ว่า ผู้ใหญ่อเมริกันส่วนใหญ่ไม่พอใจการจัดการภาษี และเศรษฐกิจของทรัมป์

การหารือที่สวิตเซอร์แลนด์ จะเป็นการเจรจาการค้าที่ได้รับการยืนยันแล้วครั้งแรกระหว่างสหรัฐกับจีน นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์