ส่องมาตรการ ‘สหภาพยุโรป’ เตรียมรับมือภาษียานยนต์ทรัมป์

“สหภาพยุโรป” กำลังเตรียมการตอบโต้หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ทรัมป์สัญญาว่าจะมีการเรียกเก็บ "ภาษีตอบโต้" ในวงกว้าง

"อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน" ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อ "การยิงกราดด้วยภาษี" ครั้งล่าสุดจากทรัมป์ โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน

ทรัมป์เรียกวันที่ 2 เม.ย.ว่าเป็น "วันปลดปล่อยอเมริกาที่แท้จริง" และกล่าวว่ารอบนี้จะ "ใจดีมาก" อย่างไรก็ตาม เขาขู่ว่าจะใช้มาตรการ "ที่ใหญ่กว่าที่วางแผนไว้" หากสหภาพยุโรปร่วมมือกับแคนาดาต่อต้านสหรัฐ

แหล่งข่าวในสหภาพยุโรปเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ทรัมป์คาดว่าจะใช้อัตราภาษีสองหลักกับทั้งกลุ่มสหภาพยุโรป แทนที่จะกำหนดอัตราที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละประเทศสมาชิก เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปที่กำลังประชุมกับคู่เจรจาชาวอเมริกันในวอชิงตันมองว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีรอบใหม่นี้

แม้ว่าสหภาพยุโรปจะใช้เวลาในการประเมินแผนการตอบโต้ของตัวเอง แต่มีรายงานว่าอียูได้พัฒนา "เครื่องมือที่แข็งแกร่ง" ตั้งแต่สมัยแรกของทรัมป์ที่สามารถนำมาใช้ตอบโต้ได้

เหตุการณ์สำคัญอื่นๆ

• พันธมิตรเคียฟ: ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส กำลังรวบรวมผู้นำจากกว่า 30 ประเทศในกรุงปารีสวันนี้ เพื่อพยายามสร้างบทบาทให้ยุโรปในการเจรจาหยุดยิงที่นำโดยสหรัฐ เกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน มาครงใช้โอกาสนี้เรียกร้องสิ่งที่เขาเรียกว่า "กองกำลังสร้างความมั่นใจ" ซึ่งสามารถวางกำลังเชิงยุทธศาสตร์ทั่วยุโรปเพื่อป้องปรามการรุกรานที่อาจเกิดขึ้นจากรัสเซีย
• ทางเลือกที่ยาก: เจ้าหน้าที่ยุโรปกล่าวว่า ทรัมป์จะเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากในความพยายามยุติสงครามของรัสเซียในยูเครน โดยต้องผลักดันปูตินกลับไป หรือยอมประนีประนอมกับผู้นำรัสเซียเพื่อให้บรรลุกำหนดเส้นตายที่ตั้งไว้เองสำหรับการยุติการสู้รบ
• การแยกตัวของเฟซบุ๊ก: ตามคำตัดสินที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ ผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหภาพยุโรปต้องการให้ Meta Platforms Inc. สร้างเวอร์ชันแยกต่างหากของเว็บไซต์ Facebook Marketplace หรือเสนอทางเลือกให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการคู่แข่ง คำตัดสินของคณะกรรมาธิการที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว นำไปสู่การปรับ 798 ล้านยูโร
• การบุกค้นโคคา-โคล่า: ธุรกิจของโคคา-โคล่าในยุโรปตกเป็นเป้าหมายในการบุกค้นของหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรปเมื่อต้นเดือนนี้ บริษัทถูกสอบสวนในข้อหาละเมิดกฎการแข่งขันที่อาจนำไปสู่ค่าปรับจำนวนมาก
• เหตุการณ์ในกรีซ: ในฐานะประเทศที่รักษางบประมาณการป้องกันในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวิกฤตการเงิน กรีซมีบทเรียนมีค่าที่จะมอบให้ยุโรป ในขณะที่สหภาพยุโรปเร่งเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเพื่อรับมือกับการรุกรานของรัสเซียและสหรัฐกำลังเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศที่ยืนยาว ประสบการณ์ของกรีซในการปกป้องตนเองจากเพื่อนบ้านที่เป็นศัตรูอาจเป็นประโยชน์
• การทำงานภายใน: รายงานได้เปิดเผยกลไกทางการเงินของธนาคารกลางฮังการี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โปแลนด์และบ้านพักหรูในสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะขาดทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของวิกเตอร์ ออร์บาน ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับผลการค้นพบ เนื่องจากต้องการเน้นย้ำข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตและระบบพวกพ้องล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า
• เป้าหมายกรีนแลนด์: ทรัมป์ยังคงยืนยันข้อเรียกร้องให้สหรัฐผนวกกรีนแลนด์ โดยรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์มีกำหนดเยือน "เราจะต้องได้เกาะนี้" ทรัมป์กล่าว โดยเสริมว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงระหว่างประเทศ แวนซ์จะเดินทางไปถึงในขณะที่พรรคการเมืองของกรีนแลนด์ยังคงพยายามจัดตั้งพันธมิตรรัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อต้นเดือนนี้
• พันธบัตรธนาคาร: UBS, UniCredit และ Nomura ไม่สามารถกลับคำตัดสินค่าปรับการแข่งขันของสหภาพยุโรปที่รวมหลายร้อยล้านยูโร ค่าปรับเกิดขึ้นจากข้อกล่าวหาว่าธนาคารฮั้วกันในการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลระหว่างวิกฤตหนี้สาธารณะของภูมิภาค คำตัดสินสามารถอุทธรณ์ไปยังศาลสูงสุดของสหภาพได้

นอกจากนี้ สวีเดนประกาศจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันเป็น 3.5% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจภายในปี 2030 เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายก่อนหน้าในฤดูใบไม้ผลิที่แล้วที่ 2.6% ประเทศในยุโรปหลายแห่งได้ประกาศเป้าหมายการใช้จ่ายด้านการป้องกันที่ทะเยอทะยานมากขึ้น ตามข้อเรียกร้องหลักของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าเป้าหมายการใช้จ่ายใหม่ทั่วทั้ง NATO ที่มากกว่า 3% จะถูกประกาศในการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปของพันธมิตรในเดือนมิ.ย.