Shein ลดเสี่ยงภาษีทรัมป์ ขอซัพพลายเออร์ย้ายฐานไป 'เวียดนาม'

บลูมเบิร์กรายงานว่าบริษัทผู้ผลิตแฟชั่นรายใหญ่ “ชีอิน” (Shein) กำลังขอให้ซัพพลายเออร์เครื่องแต่งกายชั้นนำบางรายในจีนตั้งโรงงานผลิตใหม่ในเวียดนาม (ย้ายฐานผลิตไปเวียดนาม) พร้อมด้วยแรงจูงใจต่างๆ เช่น การให้ราคาจัดซื้อมากถึง 30% 

แหล่งข่าวเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่าความพยายามดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และเร่งให้เร็วขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทพยายามบรรเทาผลกระทบจาก “ภาษีศุลกากร” ของสหรัฐที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสินค้าจีน 10% 

การขยายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Shein ในการรับมือกับความท้าทายทางการค้าที่เพิ่มขึ้น การพึ่งพาการผลิตในจีนเพียงอย่างเดียวทำให้บริษัทมีความเสี่ยงต่อมาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเลิกข้อยกเว้นภาษี "de minimis" ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจของ Shein และคู่แข่งอย่าง Temu

การกระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ จะช่วยให้ Shein ลดความเสี่ยงจากนโยบายทางการค้าที่ผันผวน และยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทเข้าถึงตลาดแรงงานและวัตถุดิบที่หลากหลายมากขึ้น

Shein ได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าดึงดูดใจให้กับซัพพลายเออร์จีนรายใหญ่เพื่อเปิดสายการผลิตใหม่ในเวียดนาม ซึ่งรวมถึงราคาจัดซื้อที่สูงขึ้น 15-30% และการรับประกันคำสั่งซื้อในปริมาณที่มากขึ้น นอกจากนี้ Shein ยังยินดีที่จะขยายระยะเวลาการผลิต และให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งโรงงาน รวมถึงการขนส่งผ้าจากจีนไปยังเวียดนามอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่าแรงจูงใจเหล่านี้จะครอบคลุมเฉพาะช่วงเดือนแรกๆ ของการตั้งค่าซัพพลายเออร์เท่านั้น  นอกจากนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าซัพพลายเออร์จะลดขนาดกำลังการผลิตที่มีอยู่ในประเทศจีนหลังจากตั้งโรงงานในเวียดนามหรือไม่ การหารือยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น และแผนอาจเปลี่ยนแปลงได้

อย่างไรก็ดี โฆษกของ Shein ได้ปฏิเสธกับบลูมเบิร์กผ่านอีเมลว่าบริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในเวียดนาม โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

กลยุทธ์ของบริษัทสะท้อนให้เห็นว่าการขึ้นภาษีของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตในอนาคตของจีน และคุกคามภาคการผลิตขนาดใหญ่ของจีนบางส่วน รวมทั้งความเสี่ยงต่อการจ้างงาน

นักเศรษฐศาสตร์จาก Nomura Holdings Inc. กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ภาษีใหม่ของสหรัฐจะทำให้การเติบโตของการส่งออกทั้งหมดของจีนลดลง 1.3 % และลดการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปีนี้ลง 0.2 %

 

 

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์