ยอดขาย BYD ไล่บี้ Tesla มาติด ๆ ลุ้นจำหน่ายอีวีได้มากสุดในโลกในปี 67

บีวายดี ผู้ผลิตรถยนต์อีวีสัญชาติจีน มียอดขายสูสีกับเทสลาในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จ่อลุ้นทำยอดขายแซงหน้าเทสลา ขึ้นเป็นแบรนด์ที่จำหน่ายรถอีวีได้มากสุดในโลก ประจำปี 2567
ข้อมูลจาก MarkLines ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจาก 55 ตลาดทั่วโลกในระหว่างเดือน ก.ค. และเดือน ก.ย. อยู่ที่ 2.52 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบรายปี แม้การเติบโตชะลอตัวลง แต่ยอดขายยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลก
“เทสลา” (Tesla) ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ มียอดขายรถอีวี ทั่วโลก 432,000 คัน เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนหน้า แม้ยอดขายในสหรัฐและยุโรปลดลง แต่ยอดขายในจีนฟื้นตัวท่ามกลางการให้เงินอุดหนุนของรัฐบาลจีน
นอกจากเทสลาแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เกิดใหม่ก็ได้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนที่สำคัญที่มีผลต่อยอดขายอีวี โดยเมื่อไตรมาสที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นในตลาดท็อป 5 จาก 10 อันดับเป็นแบรนด์รถยนต์จากจีน ขณะที่ผู้ลิตผสมาร์ทโฟนเสียวหมี่ที่ไม่ได้ติดท็อป 10 สามารถเอาชนะยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างโตโยต้ามอเตอร์ได้ในเวลาเพียง 6 เดือน หลังจากเปิดตัวรถยนต์อีวี
“บีวายดี” (BYD) แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่อยู่อันดับที่ 2 มียอดขาย 424,000 คันแล้วในปีนี้ เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน บีวายดีสามารถถึงดูดลูกค้าได้ด้วยรถยนต์รุ่นราคาราว 10,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 350,000 บาท ซึ่งมีราคาถูกพอที่จะแข่งขันกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปได้
ขณะที่เจ้อเจียง จีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่จำหน่ายรถอีวีระดับไฮเอนด์ ครองอันดับที่ 3 ด้วยยอดขาย 201,000 คันแล้วในปีนี้
AlixPartners บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติสหรัฐ คาดว่า แบรนด์รถยนต์จีนจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 3 ได้ภายในปี 2573
ส่วนผู้เล่นยุโรปและอเมริกาที่เคยครองตลาด กลับมียอดขายลดลง โดยโฟล์คสวาเกน ร่วงลงมา 2 อันดับอยู่ที่อันดับ 5 และยอดขายลดลง 17% สู่ระดับ 170,000 คัน
ด้านสเตลแลนทิสและเมอร์เซเดส-เบนซ์ หลุดท็อป 10 หลังจากยอดขายลดลงมากกว่า 20%
ทั้งนี้ อุปสงค์ในยุโรปลดลงท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว และเงินอุดหนุนน้อยลงในตลาดขนาดใหญ่ และโฟล์คสวาเกนก็อยู่ระหว่างการหารือกับสหภาพเกี่ยวกับแผนปิดโรงงาน 3 แห่งในเยอรมนี
ส่วนเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) มีผลงานที่ดีครองอันดับที่ 4 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 27% สู่ระดัับ 184,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากบริษัทร่วมทุนในจีน SAIC-GM-Wuling Automobile อย่างไรก็ตาม จีเอ็มก็ถูกกดดันให้พิจารณาแผนกลยุทธ์ใหม่ ทำให้ต้องเลื่อนการเริ่มต้นผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐออกไป
ขณะที่ท็อป 20 ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายใดติดอันดับเลย
อย่างไรก็ตาม นิสสันทำผลงานได้ดีที่สุด โดยครองอันดับที่ 22 จำหน่ายอีวีได้เพิ่ม 2% สู่ระดับ 34,000 คัน แต่ยังคงร่วงลงมา 4 อันดับท่ามกลางยอดขายรุ่น Sakura และ Leaf ในบ้านที่ลดลง ขณะที่โตโยต้า และฮอนด้า ครองอันดับที่ 23 และ 24 ตามลำดับ โดยยอดจำหน่ายรถอีวียังคงต่ำทั้งสองค่าย
อ้างอิง: Nikkei Asia







