'เศรษฐกิจคอนเสิร์ต'เห็นผลหนุนท่องเที่ยวสิงคโปร์แกร่ง

'เศรษฐกิจคอนเสิร์ต'เห็นผลหนุนท่องเที่ยวสิงคโปร์แกร่ง

สิงคโปร์เล็งใช้คอนเสิร์ตเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งโคลด์เพลย์, เอ็ด ชีแรน และล่าสุดเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่เพิ่มเม็ดเงินให้ภาคการท่องเที่ยวหลายร้อยล้านดอลลาร์

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงาน หยุ่น ลิ่ว นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคอาเซียนของธนาคารเอชเอสบีซี ระบุไว้ในรายงานฉบับล่าสุด

“เดิมทีดินแดนสิงโตเคยดึงดูดการเดินทางทำธุรกิจ แต่งานดนตรีใหญ่ระดับโลกกำลังหนุนภาคธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่มีส่วนสร้างจีดีพีได้มากถึง 10%”

ในเดือน ม.ค. โคลด์เพลย์ วงดังจากอังกฤษมาเปิดการแสดงหกรอบที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ แฟนแห่ซื้อบัตร 200,000 ใบหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมง ทุบสถิติศิลปินที่ขายบัตรได้มากที่สุดภายในวันเดียวของสิงคโปร์ ซึ่งสิงคโปร์เป็นปลายทางสำคัญในเอเชียของคอนเสิร์ต the Spheres World Tour ช่วยหนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

การค้นหาที่พักในสิงคโปร์บนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก “อะโกดา” เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงคอนเสิร์ตโคลด์เพลย์ ความสนใจในช่วงวันดังกล่าวสูงขึ้น 8.7 เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่วงเริ่มขายบัตรคอนเสิร์ตเมื่อเดือน มิ.ย.2566 ยอดจองที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย

และสุดสัปดาห์นี้ สิงคโปร์จะได้ต้อนรับป็อบสตาร์ดังชาวอเมริกัน “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่ Eras Tour ของเธอในสหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมาประเมินว่า ผู้คนใช้จ่ายไปราว 4.6 พันล้านดอลลาร์

“เทย์เลอร์ สวิฟต์เป็นอีกคนที่คาดกันมากว่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจได้มหาศาล ดูจากผลงานที่ผ่านมาของเธอ”ลิ่วกล่าว

ข้อมูลจากสมิธ ทราเวล รีเสิร์ช (เอสทีอาร์) ชี้ว่า หลังจากเจ้าตัวประกาศวันแสดงในสิงคโปร์ได้ไม่นาน ยอดจองโรงแรมเดือน มี.ค.พุ่งขึ้น 10% สวิฟต์มีกำหนดแสดงหกโชว์ และเดือน มี.ค.ก็เตรียมเป็นเดือนที่มียอดเข้าพักสูงสุด ในรอบแปดเดือนแรกของปี 2567

ความต้องการเที่ยวบินไปสิงคโปร์พุ่งขึ้นเช่นกัน สวิฟต์แสดงคอนเสิร์ตในเอเชียแปซิฟิกเพียงสามประเทศเท่านั้น ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ สัปดาห์ก่อนการท่องเที่ยวสิงคโปร์กล่าวว่า ได้ให้เงินอุดหนุนเพื่อนำ Eras Tour มาจัดในสิงคโปร์ให้ได้

ทั้งสิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินชั้นนำของประเทศ และสกูต สายการบินราคาประหยัด กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า ความต้องการเที่ยวบินไปสิงคโปร์ในเดือน มี.ค. เพิ่มสูงมาก โดยเฉพาะจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ็ตสตาร์เอเชียยืนยันเช่นกันว่า ความต้องการในเส้นทางกรุงเทพฯ มะนิลา จาการ์ตา ไปสิงคโปร์ เพิ่มขึ้นราว 20%

เอริกา เทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยมหภาคของเมย์แบงก์คาดว่าคอนเสิร์ตของสวิฟต์ทำรายได้ให้ภาคการท่องเที่ยวราว 350-500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (9,345-13,350 ล้านบาท) สันนิษฐานว่า ผู้ชมราว 70% เดินทางมาจากต่างประเทศ

“ถ้าเธอไม่มาสิงคโปร์ ฉันก็ไม่ซื้อตั๋วหรอก ฉันอยากมีประสบการณ์กับเพื่อนๆ ที่โตมาด้วยกัน มันยากมากที่จะบินไปด้วยกันเพื่อดูคอนเสิร์ตเดียว” มาวิส มุก นักศึกษาสิงคโปร์ วัย 22 ปี กล่าว เธอควักเงิน 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 8,000 บาท) เป็นค่าบัตรคอนเสิร์ต แถมยังควักเพิ่มอีก 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ (4,000 บาท) และกำไลข้อมือลูกปัดสำหรับแฟนเพลงไว้แลกเปลี่ยนกันในคอนเสิร์ต ทั้งยังเตรียมเงินไว้ซื้อสินค้าที่ระลึกจากทัวร์คอนเสิร์ตด้วย

 

ยุคแห่งชื่อเสียงสิงคโปร์

ที่ผ่านมาศิลปินชื่อดังหลายรายล้วนเคยมาแสดงที่สิงคโปร์ อาทิ เอ็ด ชีแรน, บรูโน มาร์ส, แบล็กพิงค์ และอื่นๆ คอนเสิร์ตระดับเอลิสต์สร้างสีสันใหม่ให้กับสิงคโปร์ในฐานะปลายทางการท่องเที่ยว

ลิ่วกล่าวด้วยว่า เดิมที  ธุรกิจ MICE (การจัดงานและกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์น่าประทับใจ)ของสิงคโปร์ มีแนวโน้มดึงดูดนักเดินทางทำธุรกิจผู้มั่งคั่ง แม้สิงคโปร์คุ้นเคยกับการผลิตภาคเทคโนโลยีและการเงินมาก แต่บริการด้านการท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของจีดีพี

ขณะที่เทย์จากเมย์แบงก์สังเกตว่า การท่องเที่ยวอีเวนท์กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังโควิด ที่ผู้คนยินดีบินไปดูคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬามากขึ้น

นอกจากรายงานจากคอนเสิร์ตโดยตรงแล้ว ศิลปินเอลิสต์เหล่านี้ยังช่วยรับรองชื่อเสียงของประเทศเจ้าภาพด้วย

“ภาพที่เธอสนุกสนานในสิงคโปร์ ไม่ว่ากำลังลองอาหารจานเด่นหรือเยี่ยมชมมรดกสถาปัตยกรรมจะช่วยได้มาก ถ้าเธอหลงรักข้าวมันไก่ขึ้นมา จะทำให้อาหารจานนี้และสิงคโปร์ ปรากฏบนแผนที่ท่องเที่ยวโลก” เทย์กล่าว