WTO จ่อหั่นคาดการณ์ค้าโลกปี '66-67 ผลพวงทะเลแดงลากยาว 2 ปีติดต่อกัน

ราล์ฟ ออสซา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ขององค์การการค้าโลก หรือ WTO เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า WTO อาจปรับลดคาดการณ์ตัวเลขการค้าทั่วโลกปี 2566 - 2567 ที่เคยมีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลกระทบของปัญหาความไม่สงบในทะเลแดงที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลงกว่าที่คาดเอาไว้ 

ก่อนหน้านี้ WTO คาดการณ์ว่าปริมาณการค้าทั่วโลกจะขยายตัวขึ้น 0.8% ในปี 2566 และขยายตัว 3.3% ในปี 2567 แต่หลังจากที่เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธฮูตีในประเทศเยเมนซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน เริ่มมุ่งเป้าโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์เป็นที่น่ากังวลมากขึ้น

ออสซา กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์การค้าโลกที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้เป็นการมองโลกในแง่ดีมากเกินไป และ WTO จะเปิดเผยการอัพเดตตัวเลขคาดการณ์ใหม่ออกมาภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยการปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ของหน่วยงานเศรษฐกิจระดับโลกหลายแห่งมีผลต่อคาดการณ์การค้าของ WTO ด้วย และผลพวงจากเรื่องทะเแดงยังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาขยายตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ออสซายังเน้นย้ำว่าการค้าโลกในปีนี้มีแนวโน้มที่จะดีกว่าและแซงหน้าปี 2566 โดยเสริมว่าเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวอยู่ก็ตาม ทั้งนี้หากการหยุดชะงักยังคงอยู่คาดว่าจะทำให้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในยุโรปยังยืดยื้อต่อไป แต่ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดภาวะช็อกทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เหมือนในช่วงการระบาดของโควิด-19

หวั่นสถานการณ์ลุกลามหลังทหารสหรัฐเสียชีวิต

สถานการณ์ในทะเลแดงทวีความตึงเครียดขึ้นและหลายฝ่ายกังวลว่าอาจลุกลามออกไปในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากที่มีรายงานเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่ามีทหารสหรัฐเสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 34 นาย หลังจากโดรนลำหนึ่งได้พุ่งเป้าโจมตีฐานทัพของสหรัฐในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์แดน ใกล้กับชายแดนซีเรีย โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และประกาศว่าจะใช้ปฏิบัติการตอบโต้ในเรื่องนี้

ล่าสุดมีรายงานว่าสมาชิกสภาคองเกรสหลายรายต่างเรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดน มีคำสั่งให้โจมตีอิหร่านเพื่อตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐไม่ต้องการขยายวงในการทำสงครามกับอิหร่าน และย้ำว่า "เราไม่ต้องการขยายวงในการทำสงครามในภูมิภาค แต่เราจะทำในสิ่งที่เราต้องทำ"