รู้หรือไม่ วันคริสต์มาสยูเครน ไม่ใช่ 25 ธ.ค. แต่ปีนี้ใช่แล้ว!

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ยูเครนผ่านกฎหมาย วันคริสต์มาสยูเครน ในเดือน ก.ค. ย้ายวันคริสต์มาส มาเป็น 25 ธ.ค. ซึ่งวันเดียวกับที่ชาวคริสต์ส่วนใหญ่ของโลกเฉลิมฉลองกัน กฎหมายฉบับนี้ที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี  ระบุว่า ชาวยูเครนต้องการ “ใช้ชีวิตของตนเองตามธรรมเนียมและวันหยุดของตนเอง” กฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้ชาวยูเครน “ละทิ้งมรดกของรัสเซียที่กำหนดให้ฉลองคริสต์มาสในวันที่ 7 ม.ค.”

ทั้งนี้ ชาวยูเครนส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาคริสต์ นิกายรัสเซียออร์โธด็อกซ์เป็นนิกายหลักจนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งวันคริสต์มาสนั้นโบสถ์ส่วนใหญ่ทางภาคตะวันออกยึดถือปฏิทินจูเลียนที่ใช้กันมาตั้งแต่ยุคโรมันเช่นเดียวกับโบสถ์รัสเซีย แทนที่จะใช้ปฏิทินเกรกอเรียนอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

การเปลี่ยนวันคริสต์มาสถือเป็นท่าทีแข็งกร้าวนับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกราน เพื่อละทิ้งร่องรอยของรัสเซียและจักรวรรดิโซเวียต เหมือนกับการตั้งชื่อถนนเสียใหม่และย้ายอนุสาวรีย์ที่ทำมาก่อนหน้านี้

แม้แต่โบสถ์ออร์โธด็อกซ์ในยูเครนที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่โดยอิสระ ทำพิธีครั้งแรกในปี 2562 ก็เปลี่ยนวันคริสต์มาสมาเป็น 25 ธ.ค. เช่นกัน

โบสถ์แห่งนี้ตัดขาดจากโบสถ์ออร์โธด็อกซ์รัสเซียจากกรณีรัฐบาลมอสโกผนวกไครเมียเมื่อปี 2557 และสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน

ความแตกแยกทางการเมืองทำให้นักบวชและกระทั่งสังฆณฑลทั้งคณะย้ายสังกัดไปหาโบสถ์อื่น ด้วยคริสตจักรออร์โธด็อกซ์แห่งยูเครนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และรัฐบาลสนับสนุนให้เข้ายึดโบสถ์หลายแห่งที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย

ขณะที่โบสถ์ยูเครนออร์โธด็อกซ์ที่เคยเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ยังคงถือวันที่ 7 ม.ค.เป็นวันคริสต์มาส โบสถ์นี้อ้างว่าต้องตัดสัมพันธ์กับรัสเซียเพราะสงคราม แต่ชาวยูเครนหลายคนยังคลางแคลงใจ

ส่วนโบสถ์ยูเครนกรีกคาธอลิก โบสถ์ออร์โธด็อกซ์ใหญ่อันดับสามของประเทศ จะทำพิธีคริสต์มาสในวันที่ 25 ธ.ค. เช่นกัน

ที่ผ่านมา ยูเครนตกอยู่ภายใต้การนำทางศาสนาของรัฐบาลมอสโก ล่าสุดตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 

ภายใต้สหภาพโซเวียตและความเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า ธรรมเนียมคริสต์มาส เช่น การจัดต้นคริสต์มาส การให้ของขวัญจะกระทำในวันส่งท้ายปีเก่า ที่กลายมาเป็นวันหยุดหลักและยังคงสำคัญสำหรับหลายๆ ครอบครัว

ธรรมเนียมคริสต์มาสยูเครน เช่น รับประทานอาหารเย็นในคืนคริสต์มาสอีฟด้วยอาหารไร้เนื้อสัตว์ 12 อย่าง อาทิ คุตยา พุดดิงธัญพืชหวาน ประชาชนตกแต่งบ้านด้วยฟ่อนข้าวสาลีที่เรียกว่า ดิดูกี

ในบางพื้นที่เด็กๆ ออกไปร้องเพลงคริสต์มาส “คอลยาดกี” ตามบ้านเรือนและแสดงฉากพระเยซูประสูติ