เทสลาเตรียมผลิต 'อีวีโลว์คอสต์'" ปั้นรถราคาต่ำล้านรุกตลาดเยอรมนี

เทสลาเตรียมผลิต 'อีวีโลว์คอสต์'" ปั้นรถราคาต่ำล้านรุกตลาดเยอรมนี

แหล่งข่าวเผย 'เทสลา' เตรียมผลิตรถอีวีราคา 'ถูกที่สุดเท่าที่เคยทำมา' 25,000 ยูโร บุกตลาดเยอรมนี หวังอุดช่องโหว่รถไฟฟ้าสหรัฐ-ยุโรปราคาแพง ทำผู้บริโภคไม่ซื้อรถไฟฟ้าเยอะเท่าที่คิด

รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า เทสลาเตรียมผลิตรถยนต์ราคา 25,000 ยูโร (ราว 9.55 แสนบาท) ที่โรงงานใกล้กับกรุงเบอร์ลิน ซึ่งจะถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ราคาถูกที่สุดเท่าที่เทสลาเคยผลิตมา และเป็นรถราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทคันแรก จากปัจจุบันที่รถราคาถูกที่สุดก็คือรุ่น โมเดล 3 ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 38,990 ดอลลาร์ (ราว 1.39 ล้านบาท) 

แหล่งข่าวระบุว่า อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ได้เปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมโรงงานผลิตในเมืองกรุนไฮด์เดอ ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดปัญญาประดิษฐ์ในอังกฤษ โดยมัสก์ได้ขอบคุณพนักงานทุกคนในโรงงานแห่งนี้ที่ตรากตรำทำงานอย่างหนัก และได้เผยเกี่ยวกับแผนการผลิตรถอีวีราคาถูกที่โรงงานแห่งนี้

เทสลาเตรียมผลิต \'อีวีโลว์คอสต์\'\" ปั้นรถราคาต่ำล้านรุกตลาดเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่า เทสลาจะเริ่มกระบวนการผผลิตรถอีวีราคาถูกได้เมื่อไร ขณะที่บริษัทเทสลายังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ 

การทำรถยนต์อีวีราคาถูกนั้นถือเป็นเป้าหมายของมัสก์มานานแล้ว โดยผู้ก่อตั้งเทสลามีแผนที่อยากจะผลิตรถไฟฟ้าราคาถูกเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่ในปี 2565 ที่ผ่านมา มัสก์เพิ่งส่งสัญญาณว่ายังไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำรถราคาถูกออกมาได้ จึงต้องพับแผนการนี้ไปก่อน 
 
ทั้งนี้ ผลสำรวจความเห็นผู้บริโภคจากหลายโพลล์ต่างระบุว่า การที่รถยนต์อีวีมีราคาสูง บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น คือหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากในยุโรปและสหรัฐยังไม่ตัดสินใจซื้อรถอีวี 

บริษัทวิจัยรถยนต์ จาโต ไดนามิกส์ ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของรถยนต์อีวีในยุโรป ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 อยู่ที่กว่า 65,000 ยูโร (ราว 2.5 ล้านบาท)  ขณะที่รถอีวีในจีนมีราคาเฉลี่ยถูกกว่ากันถึงครึ่ง โดยอยู่ที่กว่า 31,000 (ราว 1.2 ล้านบาท)