สหรัฐกดดันปล่อยตัวประกัน ชะลอแผนอิสราเอลบุกกาซา แต่ยังเดินหน้าไม่เปลี่ยน!

สหรัฐกดดันปล่อยตัวประกัน ชะลอแผนอิสราเอลบุกกาซา แต่ยังเดินหน้าไม่เปลี่ยน!

แหล่งข่าววงในเผย อิสราเอลสนับสนุนความพยายามทางการทูตให้ฮามาสปล่อยตัวประกันจากกาซาโดยเร็วและจำนวนมาก ซึ่งนั่นอาจชะลอหรือเปลี่ยนสงครามภาคพื้นดิน

แหล่งข่าววงในเผยกับบลูมเบิร์กว่า การปล่อยตัวประกันตามแผนของกองทัพอิสราเอลเป็นรูปธรรมเมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) เมื่อแม่และลูกสาววัย 19 ปีชาวอเมริกันจากเมืองชิคาโกได้รับการปล่อยตัวจากการเจรจาของกาตาร์ สหรัฐก็ผลักดันให้กาตาร์ที่มีผู้นำทางการเมืองของฮามาสพำนักอยู่หลายคน ลงมือทำให้มากกว่านี้

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ฮามาสฝ่ารั้วพรมแดนเข้ามาในอิสราเอลคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 1,400 คน จับตัวประกันไปอีก 210 คนจากหลายประเทศ อิสราเอลตอบโต้ด้วยการทิ้งระเบิดกาซานานสองสัปดาห์ ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขในกาซาที่บริหารโดยฮามาสอยู่ที่กว่า 4,500 คน

อิสราเอลระดมพลสำรองมากเป็นประวัติการณ์เพื่อเตรียมการสู้รบขั้นต่อไป เป็นไปได้ว่าการเป็นการบุกกาซาภาคพื้นดินท เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกกับกาตาร์ว่า เพื่อให้มีผลต่อปฏิบัติการภาคพื้นดินที่กำลังจะเกิดขึ้นอิสราเอลต้องการให้ปล่อยตัวประกันมากกว่านี้ แต่คู่เจรจาฝ่ายอิสราเอลมองว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวประกันพวกเขาจะจัดการฮามาสเพื่อแสดงความแข็งแกร่งที่เชื่อว่าจำเป็นที่ตะวันออกกลางต้องได้เห็น ไม่เช่นนั้นแล้วอิสราเอลจะถูกศัตรูมองว่าอ่อนแอโดยเฉพาะกลุ่มที่อิหร่านหนุนหลัง

กระนั้น แหล่งข่าวบอกว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินอาจเปลี่ยนแปลงไปถ้าการทูตชะลออิสราเอลไว้ได้ และเงื่อนไขภาคพื้นดินเปลี่ยน เวลาอยู่ข้างอิสราเอล ไม่ใช่ฮามาสเนื่องจากกาซาระทมทุกข์มากขึ้นทุกที

ขณะนี้มีความพยายามทางการทูตอย่างหนัก ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสจะมาอิสราเอลในวันอังคาร (25 ต.ค.) ถือเป็นผู้นำโลกคนล่าสุดที่มาพบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูด้วยตนเดอง หลังเกิดเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ตามข้อมูลของกองทัพอิสราเอล ตัวประกัน 210 คนเป็นวัยรุ่นและเด็กกว่า 20 คน สูงวัยเกิน 60 ปีกว่า 20 คน เชื่อกันว่าหลายสิบคนอาจเสียชีวิตแล้วแต่ศพยังอยู่กับฮามาส

เมื่อกลางดึกวันเสาร์ (21 ต.ค.) ฝ่ายติดอาวุธของฮามาสออกแถลงการณ์ ส่งตัวผู้หญิงอิสราเอลสองคน “ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมไม่ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน” แต่อิสราเอลไม่ยอมรับ ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเรียกแถลงการณ์นั้นว่า “โฆษณาชวนเชื่อ” และว่าอิสราเอล “จะเดินหน้าทำทุกวิถีทางนำตัวคนที่ถูกลักพาและสูญหายทุกคนกลับมา”

เหตุผลที่ฮามาสปล่อยตัวประกันสองคนยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทางการสหรัฐและอิสราเอลสงสัยว่าพวกเขาสุขภาพดี นั่นหมายความว่าภาพตัวประกันที่ถูกเผยแพร่ออกมาอาจเรียกความเห็นใจจากชาวอเมริกันและทำให้ฮามาสดูดี ภาพตัวประกันได้รับอาหารและน้ำระหว่างถูกกักตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในกาซามีฮามาสเป็นผู้ดูแล สหรัฐและสหภาพยุโรปจัดให้ฮามาสเป็นองค์กรก่อการร้าย

“เหตุผลเดียวที่สองตัวประกันถูกปล่อยตัวเมื่อวันศุกร์ เพราะแรงกดดันที่มีต่อฮามาสและผู้สนับสนุน” โอเฟียร์ ฟอล์ค ผู้ช่วยด้านการต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกล่าว

“ความพยายามสร้างภาพตนเองมีมนุษยธรรมผ่านวิธีการนี้เป็นการดูถูกสติปัญญาของทุกคน แรงกดดันจะเข้มข้นขึ้นจนกว่าตัวประกันถูกปล่อยตัวทั้งหมด และไม่มีอะไรมาเปลี่ยนเป้าหมายทำลายล้างฮามาสของเราได้”

สหรัฐมีบทบาทสำคัญต่อแผนการทางทหารของอิสราเอล โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนยิงขีปนาวุธหลายลูกมาเอี่ยวด้วย สหรัฐไม่ใช่แค่ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินสองกองเข้ามาในเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้น สัปดาห์ก่อนประธานาธิบดีโจ ไบเดนและผู้ช่วยระดับสูงมาร่วมประชุมกับคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลด้วย

เป้าหมายของสหรัฐคือให้อิสราเอลจำกัดความเสียหายต่อพลเรือน สิ่งที่เกิดขึ้นหลังปฏิบัติการจบ และวิธีปล่อยตัวประกัน ยิ่งวันเวลาผ่านไปเป็นไปได้มากขึ้นว่าสารนี้จะได้รับการปฏิบัติ

สัปดาห์ก่อนโยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ตอบคำถามในสภาว่าทำไมอิสราเอลถึงอนุญาตให้สหรัฐเข้าแทรกแซง

“เราไม่สามารถรับการสนับสนุนจากอเมริกาแล้วไม่ยอมตามความต้องการของพวกเขาในเรื่องมนุษยธรรม” รัฐมนตรีกลาโหมตอบ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลเผยว่าสหรัฐก็ระมัดระวังไม่เรียกร้องมากเกินไป เอลี โคเฮน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ระบุ

“พวกเขาเข้าใจว่า เราเจอโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ พวกเขาจึงทำตัวเหมือนเพื่อน”