รวม 7 ข้อมูลสำคัญที่รัฐบาลจีนปกปิด กังวลเสียเปรียบให้สหรัฐ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า การระงับเปิดเผยข้อมูลอัตราการว่างงานคนหนุ่มสาวจีนในสัปดาห์นี้ เป็นการระงับข้อมูลล่าสุดของประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชีย ที่มักปกปิดข้อมูลอ่อนไหว โดยเฉพาะข้อมูลที่ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง

จีนประสบกับภัยคุกคามมากมาย ที่ส่งผลต่อการขยายเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าในปีนี้ จึงเริ่มไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญต่อสาธารณะ และการต่อสู้ทางอุดมการณ์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กับสหรัฐ ทำให้รัฐบาลปักกิ่งหวงข้อมูลมากขึ้น เพราะเชื่อว่าอาจสร้างความได้เปรียบให้กับรัฐบาลโจ ไบเดนได้

 7 ข้อมูลสำคัญของจีนที่ถูกระงับเผยแพร่ มีดังนี้

• 1.ปกปิดอัตราว่างงานคนหนุ่มสาว

อัตราการว่างงานคนหนุ่มสาวช่วงอายุ 16-24 ปี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.3% เมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งหนุ่มสาวจีน 1 ใน 5 ไร้งาน ถือเป็นปัญหาต่อพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ต้องการสร้างเสถียรภาพทางสังคม

การระงับข้อมูลชนิดนี้ รัฐบาลอ้างว่ามีความจำเป็นต้องหาวิธีประเมินใหม่ เพราะการคำนวณอัตราการว่างงานมีความซับซ้อน รัฐบาลคิดว่าธรรมชาติของเศรษฐกิจ และรูปแบบแรงงานเปลี่ยนแปลงไป ทำให้การคำนวณอัตราการว่างงานคนกลุ่มนี้ไม่สะท้อนความเป็นจริง จึงเกิดข้อสงสัยมากมายต่อความเคลื่อนไหวนี้

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาจกลับมาเปิดเผยข้อมูลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

• 2.ปกปิดยอดขายที่ดิน

ข้อมูลที่ดิน และราคาที่ดินที่นักพัฒนาที่ดินซื้อ หายไปจากข้อมูลรายเดือน เนื่องจากยอดจำหน่ายที่ดินเพื่อการพัฒนาร่วงแรงมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน ยอดขายที่ดินตกต่ำขนาดนั้น บ่งชี้ว่า วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ย่ำแย่มากกว่าที่รัฐบาลรายงาน

นอกจากนี้ ข้อมูลทางการ ระบุว่า รายได้รัฐบาลท้องถิ่นจากการขายที่ดินเมื่อปี 2565 ดิ่งแรง 23%

• 3.ปกปิดเงินสำรองระหว่างประเทศ

สิ่งที่น่าสงสัยคือ ทำไมเงินสำรองระหว่างประเทศของจีนถึงคงที่มาตั้งแต่ปี 2560 แม้การค้าเกินดุลมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งที่เงินสำรองควรเพิ่มตามไปด้วย

"แบรด เซตเซอร์" อดีตเจ้าหน้าที่การค้า และการคลังสหรัฐ คาดว่า เงินสำรองครึ่งหนึ่งถูกซ่อนไว้

เซตเซอร์ บอกว่า เงินสำรองจำนวนมากไม่ปรากฏในรายงานทางการของธนาคารประชาชนจีน เพราะอยู่ในทุนสำรองเงา หรือปรากฏเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานต่างๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ของรัฐที่ให้กู้ และธนาคารเฉพาะกิจ และเสริมว่า การค้าเกินดุล และเงินหยวนคงที่ อาจเป็นเพราะเงินสำรองบางส่วน นำไปใช้แทรกแซงตลาดเงิน

• 4.ปกปิดธุรกรรมพันธบัตร

ในเดือนมี.ค.2566 ตลาดพันธบัตรเกิดความวุ่นวาย หลังโบรกเกอร์กองทุนตราสารหนี้ไม่เปิดเผยราคาพันธบัตรรวม ให้กับผู้ให้บริการข้อมูลที่เทรดเดอร์ใช้บริการมานาน ทำให้ธุรกรรมพันธบัตรลดลง 30% - 60% ในสองวัน

สื่อบางแห่งบอกว่า เป็นเพราะหน่วยงานกำกับดูแลจีน พยายามแก้ไขความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล

นอกจากนี้ ในเดือนพ.ค.2565 แพลตฟอร์มซื้อขายพันธบัตรหลัก สำหรับนักลงทุนต่างชาติ หยุดให้บริการข้อมูลธุรกรรมพันธบัตร หลังเกิดเงินไหลออกมากเป็นประวัติการณ์ ในตลาดตราสารหนี้มูลค่า 20 ล้านล้านดอลลาร์ของจีน ขณะที่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนบางแห่งไม่สามารถเปิดเผยต่อนักลงทุนต่างชาติได้

• 5.ปกปิดยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

ไฉซิน เว็บไซต์ข่าวด้านการเงินของจีน อ้างอิงข้อมูลทางการจากมณฑลเจ้อเจียง เผยเมื่อเดือนก.ค. ว่างานฌาปนกิจ หนึ่งในมณฑลที่มีประชากรมากที่สุดของจีน พุ่ง 72.7% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี

ข้อมูลนี้ ถือเป็นข้อมูลการเสียชีวิตพุ่งสูง หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 กะทันหันเมื่อเดือน ธ.ค.2565 จากนั้นข้อมูลดังกล่าวก็หายไป รัฐบาลลบรายงานดังกล่าวออกจากอินเทอร์เน็ต และไฉซินก็ลบรายงานดังกล่าวเช่นกัน

• 6.ปกปิดข้อมูลทางการศึกษา

ตั้งแต่ 1 เม.ย. การเข้าถึงฐานข้อมูลทางการศึกษาของ China National Knowledge Infrastructure สำหรับต่างชาติถูกระงับ

มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ เผยผ่านเว็บไซต์ว่า ต่างชาติไม่สามารถเข้าถึงวิทยานิพนธ์ สิทธิบัตร สถิติ และข้อมูลการประชุมต่างๆ ของฐานข้อมูลดังกล่าวได้ และทำให้ผู้จัดทำรายงานอื่นๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลทางสถิติและสำมะโนประชากรของจีน อาจได้รับผลกระทบ

• 7.ปกปิดชีวประวัตินักการเมือง

ข้อมูลชีวประวัติของเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองอาวุโสของจีนเปิดเผยน้อยลง โดยให้เพียงข้อมูลพื้นฐานไม่กี่ประโยคเท่านั้น แทนที่จะให้รายละเอียดเหมือนเรซูเมแบบเมื่อก่อน

นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์ ไม่เปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินสูงสุด เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่สีได้ครองตำแหน่งผู้นำเป็น ครั้งที่ 3 ช่วงปลายเดือนต.ค. ปีก่อน โดยปกติจะเปิดเผยรายงานบางส่วนทุกเดือนว่าหารือประเด็นใด ซึ่ง 3 เดือนที่จีนปกปิดข้อมูลส่วนนี้ได้แก่ เดือนพ.ย.65, ม.ค. และพ.ค.66

นอกจากนี้ เมื่อเดือนก.ค. รัฐมนตรีต่างประเทศจีนก็ถูกปลดออก โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ หลังหายไปจากสายตาสาธารณะ 1 เดือน

ฉิน กัง อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีน

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์