ถอดรหัสสัมพันธ์ ซีอีโอยักษ์ใหญ่ - นักการทูต ‘สหรัฐ’ ตบเท้าเยือนจีน

ถอดรหัสสัมพันธ์ ซีอีโอยักษ์ใหญ่ - นักการทูต ‘สหรัฐ’ ตบเท้าเยือนจีน

ทั่วโลกอยากรู้ และจับตาซีอีโอไมโครซอฟท์ กับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเยือนจีนในสัปดาห์นี้ แถมเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเขาจะดีลความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมสหรัฐ - จีน

“บิล เกตส์” ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ จะเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันนี้ ถือเป็นการพบปะกันครั้งแรกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากผู้นำจีนหยุดเดินทางไปต่างประเทศนาน 3 ปี เนื่องจากปิดประเทศเพราะเหตุมีการแพร่ระบาดโควิด-19 

รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดคาดว่า เป็นการพบปะแบบตัวต่อตัว โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะมีการหารือเรื่องใดบ้าง

ทั้งสองเคยพบปะกันในระหว่างการไปร่วมประชุมโป๋อ๋าว ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจให้มั่นคงและยั่งยืนที่เมืองไห่หน่าน เมื่อปี 2558 โดยครั้งนั้นพวกเขาได้หารือถึงมุมมองการยกระดับบริการสาธารณสุขและลดความยากจน  

เกตส์ทวีตข้อความเมื่อวันพุธ (14 มิ.ย.)ว่า จะเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อเยี่ยมเยือนพันธมิตรที่ได้ทำงานร่วมกันเพื่อรับมือความท้าทายด้านสุขภาพและการพัฒนาระดับโลก และนี่เป็นการเยือนครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดปี 2562

"จีนสามารถมีบทบาทมากกว่าเดิม ในการลดความยากจและปรับปรุงมาตรฐานสุขภาพประชาชนจีนและในประเทศอื่นๆ" มหาเศรษฐีชาวอเมริกันกล่าวในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Global Health Drug Discovery Institute (GHDDI) ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี (15 มิ.ย.) พร้อมกันนี้ เกตส์ยังเผยเงินทุน 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรวิจัยโรคและยาร่วมกับจีน

ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์กล่าวว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดการกับความท้าทายระดับโลก เช่น วิกฤติความอดอยาก การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา

“จีนได้รับประโยชน์อย่างมากในการลดความยากจนและปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพภายในประเทศจีน ผมหวังว่าจีนจะมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในการจัดการกับความท้าทายในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแอฟริกาที่เผชิญอยู่” เกตส์กล่าว โดยเน้นย้ำถึงจำนวนผู้ป่วยโรคมาลาเรียที่เพิ่มขึ้นในทวีปนี้ และความยากลำบากในการปลูกพืชที่ทนต่อสภาพอากาศ

มหาเศรษฐีรายนี้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการของบริษัทไมโครซอฟท์ในเดือน มี.ค. 2563 โดยเกตส์บอกว่า “ต้องการอุทิศเวลามากขึ้นให้กับ มูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์   รวมถึงโครงการสุขภาพโลก การพัฒนา การศึกษา และการมีส่วนร่วมในการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” 

การเยือนจีนของเกตส์มีขึ้นก่อนที่แอนโทนี บลิงเคนจะเดินทางถึงกรุงปักกิ่งในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการพบปะทางการทูตระดับสูงที่สหรัฐและจีนรอคอยมานาน หลังต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่กำหนดว่าจะเจอกันเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา 

 

ถอดรหัสสัมพันธ์ ซีอีโอยักษ์ใหญ่ - นักการทูต ‘สหรัฐ’ ตบเท้าเยือนจีน

 

สำนักข่าววีโอเอเป็นสื่อแรกๆ ที่อ้างทางการสหรัฐยืนยันแผนการเยือนจีนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บลิงเคน เตรียมเดินทางเยือนจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากการยกเลิกทริปเยือนจีนกะทันหันของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปมบอลลูนสอดแนมจีนบินเหนือน่านฟ้าอเมริกาเมื่อต้นปี

ในช่วงสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แดเนียล คริเทนบริงค์ เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ของทางการจีน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเตรียมการสำหรับภารกิจเยือนจีนของบลิงเคนที่อาจเกิดขึ้น โดยการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รอบนี้เป็นไปในทางที่ดี และทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะคงช่องทางการสื่อสารระหว่างกันไว้ 

บลิงเคน มีกำหนดพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการคาดการณ์ที่ผิดพลาด ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ และจีน ขณะที่ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายบลิงเคน ย้ำกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ระหว่าการสนทนาทางโทรศัพท์ ถึงความสำคัญของการเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างสหรัฐกับจีน 

ถอดรหัสสัมพันธ์ ซีอีโอยักษ์ใหญ่ - นักการทูต ‘สหรัฐ’ ตบเท้าเยือนจีน

Cr: Team Picture Tim Cook

ไม่นานมานี้ ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก อย่างทีม คุก ซีอีโอแอ๊ปเปิ้ล และอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลาก็ได้พบปะรัฐมนตรีต่างประเทศจีน และผู้แทนระดับสูงของปักกิ่ง 

ถอดรหัสสัมพันธ์ ซีอีโอยักษ์ใหญ่ - นักการทูต ‘สหรัฐ’ ตบเท้าเยือนจีน

คุกได้พบกับหวัง เหวินเถา รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีนเมื่อเดือน มี.ค. เพื่อหารือปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่มัสก์พบกับติง เสวี่ยเซียง รองนายกรัฐมนตรีจีนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ในจีนเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หวังกระชับความสัมพันธ์ให้ชื่นมื่น เนื่องจากดูเหมือนรัฐบาลปักกิ่งปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อบริษัทต่างชาติ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลจีน-สหรัฐ