Leaders' Move: 'สี จิ้นผิง-เซเลนสกี' กริ๊งกร๊างลั่นโลก ตะวันตกระวังกับดัก!

ความเคลื่อนไหวผู้นำโลกสัปดาห์นี้ที่ฮือฮาที่สุดหนีไม่พ้นการยกหูโทรศัพท์คุยกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเมื่อวันพุธ (26 เม.ย.) บทสนทนาหนึ่งชั่วโมงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ถึงความเป็นไปได้ของแผนสันติภาพนำโดยจีน
***นี่คือการติดต่อกันครั้งแรกระหว่างสองผู้นำนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ที่ผ่านมาจีนไม่ยอมข้องเกี่ยวกับรัฐบาลเคียฟในระดับเดียวกับรัฐบาลมอสโก เห็นได้จากนับตั้งแต่เกิดการรุกรานสีคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียแล้ว 5 ครั้ง ทั้งยังเคยเจอกันสองครั้ง เดือน มี.ค.สีไปเยือนมอสโก ปีก่อนก็เคยเจอกันในการประชุมผู้นำองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้
***ด้านเซเลนสกีเผยว่า การคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีจีนนั้นยาวนานและมีความหมายหารือกันหลายเรื่องตั้งแต่ความสัมพันธ์ทวิภาคีไปจนถึงสร้างสันติภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืนเพื่อยูเครน แต่เจ้าตัวย้ำ “ไม่มีสันติภาพจากการประนีประนอมดินแดน”
***เรื่องจังหวะเวลาการโทรนี้อย่ามองข้ามอีกหนึ่งประเด็น เมื่อไม่กี่วันก่อนทูตจีนประจำกรุงปารีสสร้างความเดือดดาลทั่วยุโรป ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่าประเทศอดีตสหภาพโซเวียตไม่มีสถานะเป็นรัฐตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการพูดแบบนี้ถูกมองว่าสอดรับกับทัศนคติของปูตินที่ว่า ยูเครนควรเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
การพูดของทูตยังเป็นการบั่นทอนความพยายามของจีนที่ต้องการปรับภาพลักษณ์ตนเองในสายตายุโรป และวางตัวเป็นผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียกับยูเครน ดังนั้นการที่สีโทรศัพท์คุยกับเซเลนสกีมองได้ว่า เป็นความพยายามกลบเสียงวิจารณ์จากยุโรป
***นักวิเคราะห์จากมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไม่มีทางที่จีนจะเป็นคนกลางที่น่าเชื่อถือได้เลยเพราะสนับสนุนมอสโก
***เรียกได้ว่า “แผนการสันติภาพ” ที่ทุกคนพูดถึงลึกลงไปแล้วยังมีการเล่นเกมกันอยู่ ดังนั้นแทนที่จะเป็นสันติภาพจึงน่าจะออกไปทางสร้างภาพมากกว่า เห็นทีต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความฝันแสดงบทบาทผู้นำโลกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะทำได้จริงหรือไม่
***กลับมาที่ประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียโดยเอกอัครราชทูตแอนเจลา แมคโดนัลด์และสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ร่วมกันจัดงานรำลึกวันอนุสรณ์ทหารผ่านศึกออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (วันแอนแซค) 25 เม.ย.ณ ช่องเขาขาด ปีนี้ได้แขกพิเศษบินตรงจากออสเตรเลีย
ส่วนเรื่องเตรียมการฝึกทหารร่วม ส.ค.นี้ ฝ่ายออสเตรเลียจะนำเครื่องบิน F-a 18 Super Hornet มาร่วมกับF-16ของไทย เน้นการต่อสู้ทางอากาศระดับไฮเอนด์! ได้ยินแค่นี้ก็ว้าว... อยากเห็นของจริง
***งานเดียวกัน เจอหน้า โจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ประธานในพิธีรำลึกวันแอนแซคปีนี้ อดถามไม่ได้ถึงการเลือกตั้งไทยที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. นิวซีแลนด์จะส่งผู้สังเกตการณ์มาหรือไม่ ท่านทูตตอบว่าไม่มีผู้สังเกตการณ์จากนิวซีแลนด์โดยตรง แต่สถานทูตจะลงไปสังเกตการณ์เองดูความกระตือรือร้นใช้สิทธิเลือกตั้งของคนไทย
“ผมตั้งตาคอยเดือนหน้ามากเลยครับ จะดูพวกคุณแสดงความรับผิดชอบต่อประชาธิปไตย และขอให้คุณพบกับสิ่งดีๆ ในวันนั้น” แหม..มีคนจับตาอย่างนี้ คนไทยจะมาทำนิ่งๆ เนือยๆ ไม่ได้แล้ว ต้องออกไปใช้สิทธิให้เต็มที่ เลือกคนที่รัก พรรคที่ชอบ อย่าให้น้อยหน้านิวซีแลนด์เขา
***ปิดท้ายที่ มากิ คาวามุระ อัครราชทูตที่ปรึกษาและผู้อำนวยการสำนักข่าวสารญี่ปุ่นคนใหม่ มาเยี่ยมกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ แลกเปลี่ยนสนทนาถึงความร่วมมือด้านข้อมูลข่าวสาร







