หนังเล่าโลก ‘Myanmar Diaries’ ชีวิตหลังรัฐประหาร

หนังเล่าโลก ‘Myanmar Diaries’ ชีวิตหลังรัฐประหาร

การตัดสินใจดูภาพยนตร์สักเรื่องอาจเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผล แต่ถ้าดูเพื่ออยากให้กำลังใจกลุ่มผู้สร้าง ผู้กำกับ นักแสดง รวมถึงประชาชนผู้กำลังตกทุกข์ได้ยากเพราะอำนาจเผด็จการ Myanmar Diaries คือคำตอบหนึ่ง

Myanmar Diaries ภาพยนตร์สารคดีปี 2022 สร้างโดยกลุ่มผู้สร้างและคนในแวดวงหนังเมียนมา ที่เรียกตัวเองว่า  ‘Myanmar Film Collective’ โดยไม่ระบุตัวตนชัดเจน  บอกเล่าเรื่องราวชีวิตชาวเมียนมาเนื่องในวาระครบรอบหนึ่งปีกองทัพเมียนมาโดยนายพลมิน อ่องหล่าย รัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2021 ซึ่งนับจากวันนั้นชีวิตของชาวเมียนมาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรื่องราวของพวกเขาถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงแบบไม่เผยหน้าตานักแสดง สลับกับคลิปที่ถ่ายทำระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่โน่นที่นี่ แต่โดยภาพรวมประชาชนได้รับชะตากรรมแบบเดียวกันนั่นคือชีวิตที่ไม่เห็นอนาคต  

คลิปเหล่านี้ถูกถ่ายไว้โดยคนทั่วไปที่มีเพียงโทรศัพท์มือถือเป็นอาวุธ เปิดเรื่องด้วยคลิปแอโรบิกอันลือลั่น หญิงสาวคนหนึ่งเต้นแอโรบิกอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในวันรัฐประหาร ขณะที่ทหารขับรถถังปิดถนนตรึงกำลังหลังแนวรั้วลวดหนาม

ส่วนคลิปอื่นๆ นั้นน่าเศร้า  ประชาชนถูกทหารยิงกลางวันแสกๆ ต่อหน้าต่อตาผู้ประท้วงคนอื่นแบบตั้งใจเชือดไก่ให้ลิงดู ตำรวจทหารบุกค้นบ้านพลเรือนอย่างอุกอาจ แต่สำหรับคนไทยที่เคยไปร่วมม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยอาจมีอารมณ์ร่วม เมื่อเห็นคลิปป้าเมียนมายืนเทศนาตำรวจที่ยอมจำนนต่ออำนาจเผด็จการทหาร แทนที่จะใช้อาวุธในมือปกป้องประชาชนกลับใช้ปืนจากเงินภาษีไปปกป้องเผด็จการ แต่ป้าก็ไม่วายเรียกร้องตำรวจรุ่นลูกให้เปลี่ยนใจหันมาอยู่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล แน่นอนว่าคำขอของป้าไม่เป็นผล รัฐเผด็จการยังคงอำนาจแข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม ประชาชนจำนวนมากล้มหายตายจาก  คนหนุ่มสาวหนีเข้าป่าติดอาวุธพลัดพรากจากครอบครัวคนรัก บ้างก็หนีมาไทยซึ่งแม้จะรอดชีวิตแต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร 

สถานการณ์ในประเทศล่าสุดเมื่อวันอังคาร (25 เม.ย.) บัน คีมุน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติเยือนเมียนมาสองวัน เข้าพบนายพลมิน อ่องหล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ ขอให้ “กองทัพต้องเริ่มก่อน” ในการยุติความรุนแรง และมีส่วนร่วมกับฝ่ายต่อต้านเพื่อยุติวิกฤติการณ์นองเลือดในประเทศ ขณะที่กองทัพไม่ประสงค์จะข้องเกี่ยวกับฝ่ายต่อต้าน รวมทั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) รัฐบาลเงาโดยอดีต ส.ส.จากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี ที่รัฐบาลทหารเมียนมาจัดให้เป็นองค์กรก่อการร้าย เรียกได้ว่าการเมืองเมียนมายังไม่เห็นจุดจบ เรื่องราวอย่าง Myanmar Diaries คงมีออกมาอีกเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับไทยและอาเซียน 

ในฐานะประชาชนคนดูหนังเรื่องราวอย่าง Myanmar Diaries ส่วนหนึ่งเคยเกิดขึ้นกับไทยในดีกรีที่อ่อนกว่า ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเผด็จการไทยใจดีแต่พวกเขา “เล่นเป็น” กว่าทหารเมียนมา และในโอกาสที่ไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. การชมภาพยนตร์ว่าด้วยความเลวร้ายของรัฐประหาร จะเป็นเครื่องเตือนใจได้ว่า การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างสันติวิธี อย่าปล่อยให้ใครครองอำนาจนานจนคิดว่าตนเองเป็นเจ้าของประเทศแล้วสามารถตัดสินใจนำพาประเทศไปทางไหนก็ได้โดยไม่ต้องคิดถึงประชาชน เหมือนอย่างที่เพื่อนบ้านเราเผชิญอยู่ในตอนนี้