จับตาประมูล ‘สเปิร์มบริสุทธิ์' ปลอดวัคซีนโควิด

จับตาประมูล ‘สเปิร์มบริสุทธิ์' ปลอดวัคซีนโควิด

อภิมหาเศรษฐีผู้ลี้ภัยชาวจีน เล็งเปิดประมูล “สเปิร์มปลอดวัคซีน” ผ่าน Gettr แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลบิดเบือน ขณะที่กลุ่มไม่ไว้ใจวัคซีนมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะซื้อสเปิร์มที่มีค่าเหมือน “บิตคอยน์ตัวใหม่”

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตามที่นายกั๋ว เหวินกุ้ย มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวจีนผู้ลี้ภัยในสหรัฐสตรีมมิงสดประกาศข่าวเมื่อเดือน ก.พ. เตรียมเปิดประมูลสเปิร์มและไข่จากผู้สนับสนุนบนแพลตฟอร์ม Gettr ระหว่างวันที่ 1-6 มิ.ย. อ้างว่า เขามีไข่เก็บไว้เกือบ 6,000 ใบ และสเปิร์มจากผู้สนับสนุนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอีก 2-3 ล้านตัว

“เราจะเปิดประมูลสเปิร์มและไข่ที่ดีที่สุด รวมถึงสเปิร์มของผมเองด้วย” นายกั๋วกล่าวและว่าการซื้อขายจะใช้สกุลเงินดิจิทัลและเปิดกว้างสำหรับทุกสีผิวและชาติพันธุ์

นายกั๋ว เป็นบุคคลที่ทางการจีนต้องการตัว เขาสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายสตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาทางการเมืองของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ ทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดภาวะการมีบุตรยาก หนุนให้การขายสเปิร์มของชายผู้ไม่ผ่านการฉีดวัคซีนเป็นที่ต้องการและทำเงินได้มาก

อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบแน่ชัดว่าการประมูลยังเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เนื่องจากนายกั๋วถูกจับกุมเมื่อหลายวันก่อนจากคดีฉ้อโกงผู้ติดตามทางออนไลน์หลายพันคนสร้างความเสียหายราว 1,000 ล้านดอลลาร์ แต่แผนการประมูลสเปิร์มสร้างความฮือฮาบน Gettr แพลตฟอร์มที่ผู้สนับสนุนนายกั๋วยกย่องให้เป็น “ยุคสมัยใหม่แห่งมนุษชาติ”

“การให้สเปิร์มหรือไข่ที่ไม่ผ่านการฉีดวัคซีนไม่ใช่แค่วิถีทางอันทรงเกียรติในการสร้างความมั่งคั่ง ยังเป็นการปกปักรักษาอนาคตของมนุษยชาติเอาไว้ด้วย” ข้อความความหนึ่งโพสต์สนับสนุนแผนการของนายกั๋วบน Gettr พร้อมภาพข้อความเขียนด้วยลายมือ “สเปิร์มไร้วัคซีนคือบิตคอยน์ตัวต่อไป”

เลือดบริสุทธิ์

“การประมูลนี้ใช้ประโยชน์จากเรื่องเล่าบิดเบือนที่เชื่อกันมากว่า วัคซีนโควิด-19 เป็นอันตรายต่อภาวะเจริญพันธุ์ พวกปล่อยข่าวต้านวัคซีนพยายามอ้างทั้งๆ ที่มีการศึกษาทางการแพทย์มากมายว่า วัคซีนไม่ได้ส่งผลเสียต่อการเจริญพันธุ์ของหญิงหรือชาย”จอห์น เกรกอรี บรรณาธิการข่าวสุขภาพ NewsGuard กล่าวกับเอเอฟพี

ตัวนายกั๋วเองก็เชื่อมั่นในเรื่องนี้อย่างมาก “สหพันธรัฐจีนใหม่”กลุ่มล็อบบีต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่นายกั๋วตั้งขึ้นมาก็มีแถลงการณ์ทำนองนี้บ่อยครั้ง เช่น “วัคซีนคืออาวุธชีวภาพ”

 ผู้ช่วยนายกั๋วปิดปากเงียบไม่ยอมเผยอะไรเรื่องการประมูลตามที่เอเอฟพีสอบถามไปในสัปดาห์นี้ โฆษกสหพันธรัฐจีนใหม่บอกว่า จะตอบกลับภายใน 10 นาทีก็ไม่ตอบ ถามซ้ำก็ไม่ตอบ

ด้าน Gettr บริษัทโซเชียลมีเดียฝ่ายขวาที่สื่อสหรัฐรายงานว่า นายกั๋วควบคุมในช่วงแรก ไม่ได้ตอบคำถามเอเอฟพีว่าจะอนุญาตให้จัดประมูลหรือไม่

ตอนสตรีมสดเมื่อเดือน ก.พ. นายกั๋วให้คำมั่นว่าจะทำให้ Gettr ที่อยู่ในอาการร่อแร่ เป็นแพลตฟอร์มแรกของโลกที่ซื้อขายสเปิร์มและไข่จากคนที่ไม่ฉีดวัคซีน โดยจะใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ และต้องมีจดหมายจากทนายความยืนยันว่า ผู้ขายไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่นายกั๋วไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการทดสอบหรือการเก็บ

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ Gettr บางคนไม่มั่นใจในการทำแพลตฟอร์มนี้เป็นตลาด เนื่องจากมีอุปสรรคหลายอย่าง อาทิ บางประเทศมีข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายสเปิร์ม ถ้า Gettr ดำเนินการจริงเป็นไปได้ว่าแพลตฟอร์มต้องการเจาะตลาด “เลือดบริสุทธิ์” ขบวนการเคลื่อนไหวไร้เงาระดับโลกอันเกิดจากข้อมูลบิดเบือนเรื่องวัคซีน

ข้ออ้างผิดๆ ที่ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้ร่างกายแปดเปื้อน กระตุ้นให้ขบวนการเลือดบริสุทธิ์ใช้เวทีพูดคุยออนไลน์แสวงหาเลือด สเปิร์ม หรือแม้แต่นมแม่จากผู้บริจาคที่ไม่ฉีดวัคซีน

หาประโยชน์จากความเท็จ

ดูเหมือนชาวเน็ตช่วยกันปั่นกระแสความเชื่อในหมู่คนไม่ไว้ใจวัคซีนว่า สเปิร์มคือโอกาสทำเงิน

“เงินของจริงก็คือสเปิร์มปลอดวัคซีนนี่ล่ะ เป็นทองคำขาวตัวใหม่” โพสต์หนึ่งบน Gettr ระบุ พร้อมติดแฮชแท็ก “ภาคภูมิใจ ไม่ฉีดวัคซีน”

อีกหนึ่งสัญญาณความสนใจ แก้วกาแฟและเสื้อยืดสกรีนข้อความ “สเปิร์มปลอดวัคซีนพร้อมแล้ว” ถูกนำมาวางขายบนอเมซอนและอีเบย์เช่นกัน

เอเอฟพีตรวจสอบความจริงพบว่า ในเดือน ก.พ. กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ปฏิเสธข้อมูลจากบทความบิดเบือนชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่บนเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ว่า สเปิร์มของชายไม่ฉีดวัคซีน “จะมีคุณค่าสูงในอนาคต”

ผู้ใช้โซเชียลมีเดียอีกรายกล่าวว่า ถ้ามีการเปิดธนาคารสเปิร์มปลอดวัคซีนจริง เขารวยแน่

“มันจะเป็นสินค้าอันมีค่าก็ต่อเมื่อมีคนเชื่อข่าวลวงที่ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นอันตรายต่อการเจริญพันธุ์ การประมูลนี้เข้ากับรูปแบบที่ทำกันเป็นประจำ เมื่อนักปล่อยข่าวต่อต้านวัคซีนขายสินค้าทำกำไรจากข่าวลวงที่พวกตนเป็นคนปล่อย” เกรกอรีกล่าวสรุป