“ไบเดน”ป้องระบบธนาคารสหรัฐแข็งแกร่ง ดาวโจนส์เปิดตลาดดิ่งกว่า100จุด

“ไบเดน”ป้องระบบธนาคารสหรัฐแข็งแกร่ง ดาวโจนส์เปิดตลาดดิ่งกว่า100จุด

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐแถลงยืนยันว่าระบบธนาคารของประเทศมีความแข็งแกร่งและปลอดภัย พร้อมเตรียมเสนอคองเกรสออกกฎหมายคุมเข้ม ขณะดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดปรับตัวลงกว่า 100 จุด ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าจะเกิดปรากฏการณ์โดมิโนในอุตสาหกรรมการเงินสหรัฐ

“เราต้องการให้ชาวอเมริกันมีความมั่นใจว่าระบบธนาคารของประเทศมีความปลอดภัย”ไบเดน กล่าว

 คำกล่าวนี้ของไบเดนมีขึ้นหลังจากเขาสั่งให้กระทรวงการคลังและที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเข้าแก้ปัญหากรณีการล่มสลายของธนาคารเอสวีบี และซิกเนเจอร์ แบงก์ โดยระบุว่า“ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องรับผิดชอบ พร้อมเดินหน้ายกระดับการควบคุมดูแลธนาคารใหญ่ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อีก”

คำแถลงของปธน.ไบเดนมีขึ้นหลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐ พร้อมด้วยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (เอฟดีไอซี) ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าจะดำเนินการเสริมความเชื่อมั่นในระบบการธนาคาร หลังจากที่ผู้คนวิตกว่าการล้มละลายของเอสวีบีจะส่งผลให้สถาบันการเงินการเงินและธุรกิจอื่น ๆ ล้มตามกันเป็นทอด ๆ

ด้านดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงกว่า 100 จุด โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร

เมื่อเวลา 20.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,732.08 จุด ลบ 177.56 จุด หรือ 0.56%

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในระบบธนาคารของสหรัฐ

ทั้งนี้ VIX พุ่งขึ้นมากกว่า 4 จุด สู่ระดับ 29.03 ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2565 โดยหากดัชนีดีดตัวเหนือระดับ 30 จะบ่งชี้ว่าตลาดมีความเสี่ยง ขณะที่มีความผันผวนสูง

ก่อนหน้านี้ ดัชนี VIX อยู่ในระดับต่ำเพียง 17.06 ในช่วงเริ่มต้นปี 2566

หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงนำตลาด ขณะที่ราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ทรุดตัวลงเกือบ 70% โดยถูกกดดันจากการที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของแบงก์เอสวีบี และซิกเนเจอร์ แบงก์ หรือเอสบี

นักลงทุนกังวลว่าการล่มสลายของเอสวีบี และเอสบี จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคาร โดยลุกลามไปยังธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐ เช่น FRB แม้ว่า FRB มีการดำเนินนโยบายแตกต่างจากเอสวีบี ซึ่งเป็นธนาคารที่เน้นการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่เอสบี เป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี

ราคาหุ้น FRB ดิ่งลงอย่างหนัก แม้กระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับเอสวีบี และเอสบี จะสามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” เพื่อปกป้องสถาบันการเงินอื่นๆ จากผลกระทบของการล้มละลายของเอสวีบี และเอสบี