รู้จัก “นาอูรู” ก่อนเด้งอธิบดีดีเอสไอ

รู้จัก “นาอูรู” ก่อนเด้งอธิบดีดีเอสไอ

สังคมสงสัย "ประเทศนาอูรู" อยู่ที่ไหน และมีความสำคัญอย่างไร หลังรัฐมนตรียุติธรรมเซ็นเด้งฟ้าผ่า "ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เหตุมีส่วนพัวพันหมายค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู

กรุงเทพธุรกิจ ได้เสิร์ชคำค้น “ประเทศนาอูรู” พบในเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า นาอูรูเป็นประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ประเทศแรกที่เปิดสถานกงสุลใหญ่ในไทย และมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเยือนไทยบ่อยครั้ง 

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐนาอูรู

ไทยและนาอูรูได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 โดย รัฐบาลนาอูรูได้เปิดสถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทยและแต่งตั้งนาย Alex Ying Jie Ke ชาวจีน สัญชาตินาอูรูเป็นกงสุลใหญ่ (อาชีพ) สถานกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทยเป็นกงสุลใหญ่นาอูรูแห่งเดียวในทวีปเอเชีย และนาอูรูยังเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่มีผู้แทนทางการทูตในไทย

ในช่วง 10 ปีก่อนมีนักศึกษานาอูรูศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยจำนวน 12 คน โดยส่วนใหญ่ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และพัทยา และทราบว่าปัจจุบันไม่มีคนไทยอาศัยอยู่ในนาอูรู

การค้าระหว่างไทย-นาอูรู ยังมีมูลค่าไม่มาก โดยข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ ปี 2555 มูลค่าการค้ารวมไทย-นาอูรู อยู่ที่ 0.05 (ปี 2554 มูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 0.47 ล้านดอลลาร์ มูลค่าการค้าลดลง 88.94%) ไทยส่งออกไปนาอูรูคิดเป็นมูลค่า 0.04 ล้านดอลลาร์ ไทยนำเข้าจากนาอูรู คิดเป็นมูลค่า 0.01 ล้านดอลลาร์ ไทยได้ดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 0.04 ล้านดอลลาร์

นาอูรู เป็นสาธารณรัฐเอกราชที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเกาะเดี่ยว ๆ ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่เกาะคิริบาส มีพื้นที่ 21 ตารางกิโลเมตร เขตเศรษฐกิจจำเพาะ 320,000 ตารางกิโลเมตร โดยไม่มีเมืองหลวงเป็นทางการ แต่ส่วนราชการอยู่ที่เมือง Yaren

นาอูรูมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะรูปวงรี เป็นหนึ่งในสามประเทศที่เป็นเกาะที่มีหินฟอสเฟต ล้อมรอบด้วยแนวประการัง พื้นที่สูงสุดของประเทศมีความสูง 65 เมตรจากระดับน้ำทะเล 

ส่วนใหญ่พื้นที่อุดมสมบูรณ์ของนาอูรูอยู่บริเวณแนวชายฝั่ง ซึ่งสามารถพบ มะพร้าว ต้นเตย และไม้เนื้อแข็ง รวมถึงพื้นที่ล้อมรอบทะเลสาบน้ำจืด Buada ส่วนที่ราบสูงของภาคกลาง เป็นบริเวณที่เพาะปลูกพืช เช่น กล้วย และ สับปะรด และผักต่างๆ

ขณะที่ประชากร (ปี 2555) 10,000 คน ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ภาษา อังกฤษ และ Nauruan นับถือศาสนาคริสต์ 

สิ่งที่น่าสนใจคือ GDP per capita 6,398 ดอลลาร์ (ปี2555) การเติบโตจีดีพีทางเศรษฐกิจ 4.8% (ปี2555)

อุตสาหกรรมที่สำคัญเหมืองแร่ฟอสเฟต ผลิตภัณฑ์มะพร้าว

ตลาดส่งออก เกาหลีใต้ อินเดีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย

ตลาดนำเข้า รัสเซีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สหรัฐ

การเมืองการปกครอง 

ในอดีตนาอูรูเป็นประเทศภายใต้การปกครองของออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2466-2488 ภายหลังจากได้รับเอกราชในปี 2511 นาอูรูเป็นประเทศรัฐเอกราชที่เล็กที่สุดในโลกและเป็นประเทศสาธารณรัฐที่เล็กที่สุดในโลก รวมทั้งมีสภาผู้แทนราษฎรที่เล็กที่สุดในโลกด้วย รัฐสภานาอูรูมีจำนวนสมาชิกเพียง 18 คน โดยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกๆ 3 ปี โดยสภาผู้แทนราษฎรจะเลือกตั้งประธานาธิบดี

เศรษฐกิจการค้า

นาอูรูเคยเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเมื่อเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะนาอูรูมีแหล่งแร่ฟอสเฟตที่สามารถนามาใช้ได้เลย (readily mined phosphate) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เดิมมีเหมืองแร่ฟอสเฟต ซึ่งคาดว่ามีกำลังผลิตถึงประมาณปี 2580 แต่แร่ฟอสเฟตที่สามารถนำมาใช้ได้เลยเริ่มหมดในช่วง 15 ปีที่แล้ว นาอูรูเริ่มมีปัญหาด้านการเงิน โดยในปี 2547 นาอูรูได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่าน Pacific Island Forum (PIF) ซึ่งผู้นำของประเทศ PIF ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการจัดระบบการบริหารภายใต้กรอบ Biketawa Declaration ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์ทางการเงินของนาอูรูดีขึ้น แต่กระนั้นในปี 2553 นาอูรูยังเป็นหนี้มูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 872 ล้านดอลลาร์ มากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติถึง 20 เท่า

อุตสหกรรมหลักของนาอูรู ประกอบด้วย 1) อุตสาหกรรมแร่ฟอสเฟต ซึ่งทราบจากอดีตประธานาธิบดี Stephen Marcus ระหว่างแวะผ่านประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2554 ว่า นาอูรูยังมีแร่ฟอสเฟตที่สามารถทำการขุดเจาะได้อีกอย่างน้อย 20 ปี และ 2) อุตสาหกรรมการประมง โดยเฉพาะปลาทูน่า

ปัจจุบัน นาอูรูมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2555 มีผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็น 6,398 ดอลลาร์ ส่วน การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP growth) อยู่ที่ 4% (ข้อมูลจาก Asian Development Bank 2013)

การต่างประเทศ

นาอูรูเป็นสมาชิกพิเศษของเครือจักรภพ (Commonwealth of Nations) มาตั้งแต่ ปี 2511 นาอูรูได้รับการยอมรับเป็นสมาชิกของสหประชาชาติในปี 2542 นอกจากนี้นาอูรูยังเป็นสมาชิกของ Pacific Island Forum (PIF) และ Western and Central Pacific Fisheries Commission (WCPFC) นาอูรูยังสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับทั้งไต้หวันและจีน โดยใช้การสถาปนาความสัมพันธ์ดังกล่าวเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงิน