"อินเดีย" ก็อยากใช้ "รถEV" ใครตีตลาดด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่งแน่

"อินเดีย" ก็อยากใช้ "รถEV" ใครตีตลาดด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่งแน่

เมื่อหลายคนนึกถึงยานยนต์ไฟฟ้า มักคิดถึงรถยนต์แบบ 4 ล้อ ซึ่งสหรัฐ และจีนต่างเน้นไปที่การใช้รถยนต์อีวี แต่อินเดียแตกต่างออกไป โดยประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก มียานยนต์สองล้อ เช่น สกู๊ตเตอร์ และรถจักรยานยนต์ครองตลาดในประเทศ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี สัมภาษณ์ “เจมส์ ฮง” หัวหน้าการวิจัยยานยนต์จากแม็กควารี กรุ๊ป กล่าวว่า “ในอินเดีย ยานยนต์สองล้อมีความต้องการใช้สูงกว่ารถยนต์ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานทางถนนที่ไม่พัฒนา และรายได้ประชากรต่ำ ทำให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของสกู๊ตเตอร์และรถจักรยานยนต์ได้มากกว่ารถยนต์

ยานยนต์อีวีอินเดียยังไม่กระเตื้อง

ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อเดือนธ.ค. จากโครงการของเบนแอนด์คอมพานี (Bain & Company) บริษัทให้คำปรึกษาธุรกิจชั้นนำของโลกระบุว่า ยอดขายยานยนต์ 2 ล้อในอินเดียอาจเพิ่มขึ้น 40% - 45% ภายในปี 2573 และจะมียอดจำหน่ายต่อปีที่ 13 ล้านคัน 

ส่วนยอดขายรถยนต์ 4 ล้อ อาจโตเพียง 15% - 20% ภายในปี 2573 และมียอดขาย 1 ล้านคันต่อปี และเชื่อว่ารายได้ซัพพลายเชนทั้งหมดของอุตสาหกรรมรถอีวีอินเดียอาจสูงถึง 76,000 - 100,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573

อย่างไรก็ตาม “อรุณ อากาวาล” รองประธานวิจัยตราสารทุนจาก Kotak Securities กล่าวว่า อุตสาหกรรมรถยนต์อีวีอินเดีย อาจเติบโตเพียงเล็กน้อย เนื่องจากรถยนต์ส่วนใหญ่ เป็นที่นิยมของคนเดินทางไกลออกนอกเมืองเท่านั้น

อินเดียสนใจรถอีวีราคาต่ำ

จิเนศ คานธี” นักวิเคราะห์การวิจัยยานยนต์จาก Motilal Oswal Securities ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า หากจะเพิ่มยอดซื้อยานยนต์ 2 ล้อ สินค้าต้องมีราคาต่ำ และมีสถานีชาร์จไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

โดยยานยนต์ 2 ล้อแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในมีราคาอยู่ที่ 70,000 - 140,000 รูปี หรือประมาณ 29,000 - 57,000 บาท แต่ราคายานยนต์อีวี 2 ล้ออาจเริ่มต้นสูงถึง 160,000 รูปี หรือประมาณ 66,000 บาท ทั้งนี้ อากาวาล กล่าวว่า ต้นทุนรถอีวีอาจลดลงหากราคาแบตเตอรี่ต่ำ

อย่างไรก็ตาม บริษัท Kotak ระบุว่า เงินเฟ้อและปัญหาซัพพลายเชนยังคงทำให้แบตเตอรี่มีราคาแพงในปี 2565

อรุณ กุมาร” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน “โอลา อิเล็กทริกส์” บริษัทรถอีวี 2 ล้อ กล่าวว่า จำนวนเงินที่ซื้อรถอีวีช่วยประหยัดเงินที่ต้องใช้เติมน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาจะชดเชยไปกับราคาซื้อที่เริ่มต้นสูง ซึ่งสกู๊ตเตอร์อีวีสองล้อ รวมถึงรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ของโอลาในอนาคต อาจมีราคาอยูที่ 1,000 - 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 36,000 - 1,700,000 บาท

รัฐบาลอินเดียหนุนรถอีวี

อย่างไรก็ดี Kotak เผยว่า รัฐบาลอินเดียให้เงินอุดหนุนเพื่อจูงใจให้ลูกค้าในอินเดียให้เปลี่ยนไปใช้รถอีวีแล้ว ซึ่งข้อมูลจากองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ระบุว่า โครงการของรัฐบาลอินเดียได้จัดสรรเงิน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรถบัส และรถแท็กซี่ ควบคู่กับการเพิ่มสถานีชาร์จทั่วประเทศ

เพิ่มสถานีชาร์จกระตุ้นการใช้รถอีวี

เบนแอนด์คอมพานี กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าของอินเดีย จำเป็นต้องขยายสถานีเพิ่มเพื่อรองรับจำนวนรถอีวีที่จะผลิตออกมา ซึ่งหลายบริษัทได้ลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว และมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสามารถในการชาร์จไฟฟ้า

และหนึ่งในนั้น คือ “ทาทาพาวเวอร์” บริษัทเอกชนผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดย “วิเรนดรา โกยาล” หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของทาทาพาวเวอร์ เผยว่า ได้สร้างสถานีชาร์จกว่า 2,300 แห่งใน 300 เมืองของอินเดีย ซึ่งสามารถพบสถานีชาร์จ 350-600 แห่งบนทางหลวงในประเทศ

“เพราะเจ้าของรถอีวีหลายคนกังวลเกี่ยวกับระยะห่างของสถานีชาร์จไฟฟ้า ดังนั้น การเพิ่มสถานีชาร์จ จะช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถอีวีมากขึ้นได้” โกยาล กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์