บ.เทคฯ อาจปลดพนักงานเพิ่มปีหน้า แต่ตลาดยังต้องการแรงงานสกิลสูง

ทั้งนี้ ภาพรวมของบริษัทเทคฯ ในปี 2566 ยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แล้วภาพรวมของบริษัทเหล่านี้ในปีหน้าจะเป็นอย่างไร?

บริษัทเทคโนฯ อาจปลดพนักงานเพิ่มอีก

นักวิเคราะห์หลายคน กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงในโลกออนไลน์ช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่เป็นไปตามที่หลายบริษัทคาดการณ์ไว้

“ซีเนม บูเบอร์” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัท ซิปรีครูทเตอร์ (Zip Recruiter) แพลตฟอร์มจัดหางานในสหรัฐ กล่าวว่า “ตลาดออนไลน์มีความต้องการสินค้าด้านเทคโนโลยีสูง บริษัทเทคฯ จึงใช้ประโยชน์เหล่านั้นขยายธุรกิจเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้า และคาดหวังว่าการเติบโตนี้จะมีต่อไป หลังการแพร่ระบาดโควิด-19”

ซึ่งความเข้าใจผิดดังกล่าวบวกกับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนฯ หลายแห่งต้องหาทางลดต้นทุน รวมถึงการปลดพนักงาน

โดยปกติแล้ว บริษัทเหล่านี้อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายธุรกิจได้รับการพิจารณาว่าเป็นบริษัทหุ้นเติบโต ซึ่งมูลค่าหุ้นขึ้นอยู่กับศักยภาพการสร้างรายได้ในอนาคต

ทั้งนี้ “หุ้นเติบโต” มีผลตอบแทนที่ดีกว่า หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำ ส่วนออปชันอื่นๆ ดึงดูดนักลงทุนได้น้อยกว่า

อุตสาหกรรมเทคฯ จะเกิดอะไรขึ้น?

นักวิเคราะห์หลายคนเผยว่า หลายบริษัทอย่าง เมตา และอเมซอน ยังมีเงินสดหมุนเวียนจำนวนมาก และใช้เงินนั้นลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการที่อาจมีหรือไม่มีผลตอบแทน เช่น เมตาเวิร์ส

ส่วนพนักงานที่โดนปลดออกจากบริษัทเทคฯ ต่างกำลังหางานใหม่ 

“แอนนาลิส นี” นักศึกษาจบใหม่ที่ทำงานในเมตาได้ 1 เดือนแล้วถูกปลดออก มีความคิดเห็นว่า “ฉันคิดว่าคนที่จบสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ยังเป็นทักษะที่มีคนต้องการสูง ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่ผ่านมามีหลายบริษัทต้องการ ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจสตาร์ตอัป”

อย่างไรก็ตาม พนักงานบริษัทเทคฯ อาจหางานจากธุรกิจใหญ่ก่อน เนื่องจากอัตราการว่างงานในสหรัฐต่ำ และมีงานว่างให้เลือกหลายงานในภาคอุตสาหกรรมอื่นของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอาชีพวิศวกร

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์