กูรูชี้ ประท้วงจีนไม่สะเทือนอำนาจ‘สี จิ้นผิง’

กูรูชี้ ประท้วงจีนไม่สะเทือนอำนาจ‘สี จิ้นผิง’

การประท้วงในจีนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ล่าสุดประชาชนลงถนนต่อต้านมาตรการคุมโควิดในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ก่อให้เกิดคำถามว่าการประท้วงจะบานปลายเหมือนเทียนอันเหมิน และจะส่งผลต่อสี จิ้นผิง ที่เพิ่งกระชับอำนาจเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์วาระสามหรือไม่ นักวิเคราะห์ต่างประเทศมีคำตอบ

แดน แมตทิงลี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยลกล่าวกับรอยเตอร์ว่า การประท้วงในจีนจะเพิ่มแรงกดดันให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องตอบโต้ ซึ่งเป็นโอกาสดีให้พรรคปราบปราม "พวกเขาจะจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ประท้วงบางคน” อย่างไรก็ตาม  ความไม่สงบที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังห่างไกลจากที่เคยเกิดขึ้นในปี 2532 ที่มีการประท้วงทั่วประเทศนำไปสู่การปราบปรามนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน

“ความรู้สึกของประชาชนนั้นสำคัญ แต่ตราบเท่าที่ยังไม่เกิดความแตกแยกในหมู่ผู้นำ และตราบเท่าที่พีแอลเอ (กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน) และฝ่ายความมั่นคงยังอยู่ข้างเขา เขาก็ไม่เจอความเสี่ยงใดๆ ในการครองอำนาจ” นักวิชาการรายนี้กล่าวต่อ

ศ.วิกตอเรีย ทิน บอร์ หุย นักรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยนอเทรอดาม รัฐอินดีแอนา  สหรัฐ กล่าวกับเดอะการ์เดียนว่า การประท้วงมีเป็นระยะๆ และไม่มีการจัดการ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะประชาชนทุกหนทุกแห่งได้รับผลกระทบ 

“แต่มาตรการคุมโควิดยังเพิ่มความสามารถในการสอดแนมของพรรคเพิ่มขึ้นมากด้วย ดังนั้นความตึงเครียดจะบานปลาย แต่เราคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะระเบิดเมื่อใด”

ศ.ชุง คิมวาห์ อดีตนักสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคกล่าวว่า การประท้วงแสดงให้เห็นว่าประชาชนหมดความอดทนกับมาตรการโควิดที่ไม่สมเหตุสมผลแล้ว และกำลังตั้งคำถามถึงประสิทธิผลของนโยบาย แต่การประท้วงแบบไม่มีการจัดการไม่มีพลังพอเผชิญหน้ากับรัฐบาลได้ หากมีการปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ผู้ประท้วงมักจะยอมให้ “นี่ทำให้การเปลี่ยนแปลงจากฐานรากเกิดขึ้นได้ยากมาก แทบเป็นไปไม่ได้”

ข้อน่าสังเกตคือ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. รัฐบาลจีนประกาศลดวันกักตัวและผ่อนคลายข้อจำกัดบางอย่าง แจ้งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นงดเว้นการบังคับใช้นโยบายต่อต้านไวรัสมากเกินเหตุ แต่ก็สร้างความสับสนด้วยการยืนยันว่า จีนยังคงทำสงครามต้านโควิดอย่างหนักแน่น

นักสังเกตการณ์กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลกลางจะพูดอย่างไร ข้อจำกัดโควิดไม่น่าจะได้รับการผ่อนคลายในความเป็นจริง เนื่องจากโครงสร้างอำนาจของจีนเป็นแบบท็อปดาวน์ เท่ากับว่า ทางการท้องถิ่นจะต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ต้องถูกตำหนิหากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น

เดอะการ์เดียนรายงานด้วยว่า และเนื่องจากยังไม่มีทีท่าว่าจีนจะยกเลิกข้อจำกัดในเร็วๆ นี้ นักวิเคราะห์คาดว่า การประท้วงจะบานปลาย แต่ความไม่สงบที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ไม่มีทีท่าว่าจะภัยคุกคามต่อรัฐบาลเผด็จการที่มีอำนาจปราบปรามประชาชนได้อย่างรวดเร็ว