เปิดทัศนคติ ‘ปูติน’ ทำไมรัสเซียต้าน LGBTQ

กฎหมายฉบับใหม่ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรรัสเซียเห็นชอบเมื่อวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) ระบุว่า การกระทำหรือข้อมูลใดๆ ที่ถูกมองว่า เป็นความพยายามส่งเสริมการรักเพศเดียวกันไม่ว่าจะในที่สาธารณะ บนโลกออนไลน์ ในภาพยนตร์ หนังสือ หรือการโฆษณาจะเจอโทษปรับอย่างหนัก จากเดิมที่กฎหมายเคยห้ามแค่การโฆษณาชวนเชื่อ LGBTQ ต่อเด็กเท่านั้น 

อเล็กซานเดอร์ คินสทีน นักการเมืองรายหนึ่งที่ช่วยออกแบบร่างกฎหมายกล่าวเมื่อเดือนก่อน

“LGBTQ วันนี้เป็นส่วนประกอบของสงครามลูกผสม (ไฮบริดวอร์แฟร์) และในสงครามลูกผสมนี้เราต้องปกป้องคุณค่า สังคม และเด็กๆ ของเรา”

ทัศนคติของ ส.ส.รายนี้อาจบ่งบอกเบื้องหลังกฎหมายได้ระดับหนึ่ง แต่ในรัสเซียทัศนะของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน น่าจะบอกอะไรได้ชัดเจนกว่า

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2563 ปูตินเคยประกาศกร้าวว่า รัสเซียจะไม่ยอมให้การสมรสเพศเดียวกันถูกต้องตามกฎหมายตราบเท่าที่เขายังอยู่ในทำเนียบเครมลิน ทั้งยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้ความเป็นพ่อแม่แบบดั้งเดิมถูกล้มล้างโดยสิ่งที่เขาเรียกว่า “พ่อแม่หมายเลข 1” และ “พ่อแม่หมายเลข2”

“เรื่องพ่อแม่หมายเลข 1 กับพ่อแม่หมายเลข 2 นี้ ผมเคยพูดกับประชาชนไปแล้ว และจะขอพูดอีกครั้ง ตราบเท่าที่ผมยังเป็นประธานาธิบดี สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น จะมีแค่พ่อกับแม่เท่านั้น”

ตลอดเวลาที่อยู่ในอำนาจสองทศวรรษ ปูตินเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับศาสนจักรออร์โธดอกซ์ และพยายามนำรัสเซียออกห่างจากค่านิยมเสรีนิยมของตะวันตก รวมถึงทัศนคติต่อคนรักเพศเดียวกันและการเลื่อนไหลทางเพศ

ความคิดเห็นที่ไม่ยอมให้มีการสมรสเพศเดียวกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายในรัสเซียเกิดขึ้นหลังจากปูตินเข้าพบกับคณะกรรมาธิการแห่งรัฐเพื่อหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เอื้อให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ถึงปี 2567

จากนั้นไม่กี่เดือนต่อมาในวันชาติสหรัฐ 4 ก.ค. หลังจากชาวรัสเซียลงประชามติรัฐธรรมนูญใหม่ไปแล้ว ปูตินได้แสดงความคิดเห็นเยาะเย้ยที่สถานทูตสหรัฐประจำกรุงมอสโกชักธงสีรุ้งฉลองวันชาติ  กล่าวว่า เป็นการเปิดเผยถึงอะไรบางอย่างของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ 

ย้อนประวัติรัสเซียต่อต้านคนรักเพศเดียวกัน

ปี 2565 ครบรอบ 10 ปี ประธานาธิบดีปูตินออกกฎหมายฉบับแรกเล่นงานพลเมืองจากรสนิยมทางเพศ โดยกฎหมายห้าม “โฆษณาชวนเชื่อคนรักเพศเดียวกันและการใคร่เด็กในหมู่เยาวชน”ฉบับแรกผ่านเมื่อเดือน มี.ค.2555 ครอบคลุมเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ต่อมาในปี 2556 มีผลบังคับใช้ทั่วทั้งประเทศ

เว็บไซต์  foreignpolicy.com รายงานว่า แม้ดูเหมือนเป็นคนละเรื่องเดียวกัน แต่ในใจของปูตินนั้นการทำสงครามในยูเครนกับการทำร้ายสิทธิ LGBTQ ที่รัสเซียทำมานานนับสิบปีถือเป็นสองด้านของเหรียญ  คนกลุ่มนี้ตกเป็นแพะรับบาปในสื่อของรัฐ ถูกวาดภาพเป็นตัวแทนอิทธิพลตะวันตก ชุมชนเควียร์รัสเซียคือสัญญาณเตือนภัยถึงการต่อต้านตะวันตกในวงกว้างหลังจากปูตินกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2555

เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ปูตินในวัย 70 ประณามพ่อแม่เพศเดียวกันอีกครั้ง

“เราอยากได้สิ่งนี้ในประเทศของเรา ในรัสเซียจริงๆ เหรอ แทนที่จะเป็น ”แม่“ และ ”พ่อ“ กลายเป็น พ่อแม่หมายเลข 1 พ่อแม่หมายเลข 2 หรือ พ่อแม่หมายเลข 3 จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว”

ดังนั้นร่างกฎหมายที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรฉบับล่าสุดรอความเห็นชอบจากวุฒิสภาและตัวปูตินเอง จึงถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของท่าทีรัสเซียภายใต้ประธานาธิบดีปูตินที่มีต่อชาว LGBTQ